ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม ติดตามเยียวยานักข่าวบาดเจ็บ ม๊อบ 20มีนา

ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม พร้อม กรมคุ้มครองสิทธิ ติดตามความคืบหน้าการเยียวยาผู้สื่อข่าว เหตุบาดเจ็บจากม๊อบ20มีนา แจง มีสิทธิได้รับเยียวยา ค่ารักษา-ฟื้นฟูร่างกาย- ค่าขาดประโยชน์

ที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 นายวันฉัตร วณิชพันธุ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายพัสกร เพชรในหิน ผู้อำนวยการกองมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชน ลงพื้นที่ให้กำลังใจและติดตามความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหาย จากกรณี นางสาวพนิตนาฏ พรหมบังเกิด ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ถูกกระสุนยางจากการสลายการชุมนุม ยิงเข้าที่บริเวณขมับขวา บริเวณสี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา และได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น โดยมี คุณธีระ ธัญญะอนันต์ผล บรรณาธิการบริหาร สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 และผู้สื่อข่าว ให้การต้อนรับ

สำหรับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายตามแนวทางยุติธรรมสร้างสุข ยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน โดยลงพื้นที่ ณ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ เข้าพบ นางสาวศุภิสรา พรหมบังเกิด (น้องสาวผู้เสียหาย) ซึ่งได้รับแจ้งว่า ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะจากการถูกยิงด้วยกระสุนยาง ทำให้มีเลือดออกในสมอง เข้ารับการรักษาที่ห้อง ICU แต่รู้สึกตัวดี ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม เจ้าหน้าที่จึงแจ้งสิทธิและรับคำขอค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 รวมทั้งให้คำแนะนำการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับการเรียกค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญาการฟ้องคดีแพ่งและการขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์เบื้องต้นคดีนี้ หากผู้บาดเจ็บไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ กรณีความผิดต่อร่างกาย ต่อไป

โดยนายวันฉัตร เปิดเผยว่า เรื่องการเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาเป็นสิ่งที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนทุกคนในประเทศล้วนมีสิทธิเข้าถึงอย่างเท่าเทียม โดยได้กำชับให้กรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ รวมถึงหน่วยงานต่างของกระทรวงยุติธรรม นั้นทำงานเชิงรุกเข้าถึงบริการประชาชนอย่างรวดเร็ว และเร่งประชาสัมพันธ์ถึงสิทธิต่าง ๆ ให้ประชาชนรับทราบในทุกช่องทาง

“ในกรณีของผู้สื่อข่าวที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมีความเป็นห่วง เพราะทราบดีว่าผู้สื่อข่าวนั้นอยู่ในความเสี่ยง การออกไปทำหน้าที่บนถนนเวลามีการปะทะผู้สื่อข่าวทุกสำนักทั้งไทยและต่างประเทศถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุด เพราะต้องรายงานสถานการณ์ต่างๆจากสถานที่จริง ดังนั้นการถูกลูกหลงจึงไม่สามารถคาดเดาได้ จึงอยากแจ้งให้สื่อมวลชนนั้นเข้าใจว่าตัวเองมีสิทธิเยียวยาเบื้องต้นหากได้รับการบาดเจ็บเมื่อปฏิบัติหน้าที่ ในส่วนของ ค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสรรถภาพทางร่างกายจิตใจ ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ เป็นต้น แต่การพิจารณานั้นต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และดุลยพินิจของกรรมการตรวจสอบ” นายวันฉัตร กล่าว