ความฝันเป็นจริง เด็กเก่งถิ่นน้ำดำ สอบติดหมอ มมส.
น้องโวลต์ น.ส.ณัฐวดี เหล่าบุบผา อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ที่มีความเก่ง สามารถสอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แต่ฐานะทางบ้านยากจน พ่อ-แม่ มีเงินไม่เพียงพอในการส่งเรียนต่อ เพราะคณะแพทย์ฯ มีค่าเทอมสูง
ด้วยความเก่ง และความมุมานะที่อยากเป็นหมอ ของน้องโวลต์ จึงมีชาวเน็ตต่างแชร์เรื่องราวของสาวน้อยคนนี้ พร้อมเปิดบัญชีขอรับบริจาค เพื่อเป็นทุนการศึกษาสารฝันให้น้องโวลต์ได้เรียนแพทย์อย่างที่ตั้งใจ โดยมีพลังบุญของชาวเน็ตร่วมกันสมทบทุนเข้ามาอย่างมาก รวมเป็นเงินบริจาคกว่า 2,700,000 บาท
วันที่ 10 พ.ค. 64 นายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายพูนเพิ่ม พรไตรศักดิ์ และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลโพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เข้าเยี่ยมครอบครัวน้องโวลต์ เนื่องจาก นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าฯ จ.กาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้สอบถามข้อเท็จจริง จนทราบข้อมูลว่า ค่าใช้จ่ายในการเรียนแพทย์นั้นค่อนข้างสูง ปีการศึกษาละ 80,000 บาท และใช้เวลาศึกษา 6 ปี หากใช้เงินทุนส่วนตัวคงไม่เพียงพอ และคงจะไม่สามารถศึกษาจนจบหลักสูตรได้ จึงได้เปิดบัญชีรองรับการสนับสนุนดังกล่าว ซึ่งมียอดบริจาคเข้ามาแล้วประมาณ 2,700,000 บาท และตอนนี้ปิดรับการบริจาคแล้ว เพราะเพียงพอต่อการใช้เป็นทุนสำหรับเรียนแพทย์ดังกล่าว
ส่วนน้องโวลต์ เผยว่า อยากเรียนแพทย์ มานานแล้ว เพราะเห็นว่าเป็นอาชีพที่สามารถรักษาคนเจ็บป่วยให้หายเป็นปกติ ถือว่าเป็นอาชีพที่สำคัญ และคอยช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ยิ่งมาในช่วงโควิด-19 ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลนั้น ยังไม่เพียงพอ จึงมีความตั้งใจที่จะเรียนให้จบหลักสูตร และนำความรู้ความสามารถ มาประกอบวิชาชีพในการรักษาพยาบาลคนป่วยไข้ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์บ้านเกิด และก็รู้ว่ามีเทอมสูงมาก เบื้องต้นได้กู้เงิน กยศ. เพื่อเป็นทุนการศึกษา แต่คงไม่เพียงพอ อาจารย์ที่ปรึกษาและผู้ปกครอง จึงได้ปรึกษากันเพื่อเปิดบัญชีขอรับการสนับสนุนทุนการศึกษาดังกล่าว ซึ่งคิดว่าน่าจะได้ไม่เท่าไหร่ แต่ปรากฏว่าธารน้ำใจที่สังคมโอนเข้ามาในบัญชีจำนวนมากเกินความคาดหมาย จึงขอยุติการรับโอน และขอกราบขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างมาก “ตนจะตั้งใจเรียน และทำให้ดีที่สุด เพื่อที่จะเป็นหมอรักษาคนเจ็บป่วยความความฝันที่ได้ตั้งใจไว้”
ด้านนายธนวุฒิ เหล่าบุบผา พ่อน้องโวลต์ เผยว่า ตนกับภรรยามีลูกด้วยกัน 3 คน คนโตรับราชการทหาร น้องโวลต์เป็นคงกลาง และลูกสาวอีกคนกำลังจะขึ้นชั้น ม.5 โดยน้องโวลต์เป็นเด็กดี ขยันเรียนมาตั้งแต่เด็ก ๆ และตนเพิ่งมาทราบว่า น้องโวลต์อยากเรียนแพทย์อย่างจริงจังเมื่อตอนเรียน ม.4 เพราะเห็นน้องโวลต์เอาหนังสือหลักสูตรนี้มาอ่านหลายเล่ม ตนก็ให้กำลังใจ และพยายามกัดฟันสู้ เพื่อที่จะเป็นทุนการศึกษาให้ลูก เพราะตนกับภรรยาประกอบอาชีพปลูกผักสวนครัว ส่งขายให้กับพ่อค้า แม่ค้า นำไปขายตลาดสด ลำพังรายได้ก็แค่หล่อเลี้ยงครอบครัวตามกำลัง
อีกทั้ง ได้ข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการศึกษา พบว่ามีจำนวนสูงมาก เกินกำลังแรงที่พ่อแม่ที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาจะส่งเสียได้ ที่หนักใจคือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ระหว่างเรียน หากเป็นเพียงค่าใช้จ่ายส่วนตัวก็น่าจะพอหาได้
พอครูที่ปรึกษาน้องโวลต์ มาปรึกษาเพื่อหาทุนการศึกษา และส่งต่อน้องโวลต์สู่จุดหมาย พร้อมทั้งมีผู้บริจาคเข้ามาดังกล่าว จึงขอกราบขอบพระคุณทุกท่านมีจิตศรัทธา ช่วยเหลือน้องโวลต์และครอบครัวตนในครั้งนี้
จันขอแสดงความยินดีกับน้องโวลต์ ด้วยนะคะ ขอให้น้องสู้ๆ ทำให้ดีที่สุด ทำด้วยความสุขนะคะ อนาคตแพทย์หญิงของประชาชน