ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ในช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ ได้มีการซักถามถึงเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในการชุมนุมเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา โดย มีผู้สื่อมวลชนภาคสนามได้รับบาดเจ็บ จากการสลายการชุมนุมของตำรวจ ว่า ในการปฏิบัติงานนั้น ก็ได้สั่งการตำรวจให้ถ่ายภาพสื่อมวลชนไว้ เพื่อดูว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าก็มีความห่วงใยในการทำงานของสื่อมวลชน
อย่างไรก็ดี เมื่อมีการกล่าวจากผู้สื่อข่าวว่า บางครั้งในการทำงานนั้น ก็ไม่อาจจะเลี่ยงสถานการณ์ได้ นายกรัฐมนตรี ตอบกลับว่า ทำไมจะเลี่ยงไม่ได้ พวกคุณรู้อยู่แล้วทำไมจะเลี่ยงไม่ได้ และกล่าวว่า เมื่อเห็นว่าจะรุนแรงขึ้น สื่อมวลชนควรที่จะออกปทำงานด้านข้าง ไม่ใช่ไปอยู่ในฝั่งเดียวกับผู้ชุมนุม
“เขาต้องทำงานไงเล่า เขาประกาศแล้วไม่ใช่หรือ ว่า ต่อไปนี้เขาจำเป็นที่จะต้องทำให้เหตุการณ์มันสงบ แล้วคุณไม่เห็นหรอ ก่อนเขาจะทำเนี่ย เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกระทำอะไรบ้าง คุณไม่เห็นหรอ แล้วตำรวจเขาทำอะไรก่อนไหมล่ะ ถ้าไม่มีอะไรเขาทำไหม เขาเคลื่อนกำลังไปหาผู้ชุมนุมไหม ถ้าไม่มีความรุนอแรงเกิดขึ้น ไม่ส่อเจตนาที่บานปลาย แล้วถ้าเขาไม่ประกาศก่อน นี่เขาเขาก็ประกาศก่อน คุณก็ต้องหลบ ต้องถอยออกมา แล้วคุณจะปล่อยให้ผุ้ชุมนุมไปทั่วพื้นที่หรือไง ทุกประเทศเขาก็ทำกันแบบนี้ ให้ชุมนุมอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด ชุมนุมก็ชุมนุมไปเถอะ แต่การเคลื่อนย้ายไปนู่นไปนี่ มันทำให้เกิดผลกระทบกับคนอื่นด้วยไม่ใช่หรือ แล้วถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำ แล้วคนพวกนั้นร้องเรียนขึ้นมา ”
อย่างไรก็ดี พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีการติงสื่อมวลชนด้วยว่า ทำไมการบันทึกภาพนั้น มีแต่การบันทึกภาพแต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียว มันดีอะไรกับประเทศบ้างไหม ทำไมไม่มีภาพผู้ชุมนุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ แบบนี้ต่างชาติก็เข้าใจผิด