ผู้พิทักษ์ป่า สะดุด กับดักสัตว์ จาก วีรบุรุษ เป็น คนพิการ : ห้วยขาแข้ง

เรื่องเล่า ของ ผู้พิทักษ์ป่า ห้วยขาแข้ง พลาดเหยียบ กับดักสัตว์ จาก วีรบุรุษ สุดกล้า กลายเป็น คนพิการ !

“เฉลิมวุฒิ ศรียภูมิ”

เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจทุ่งแฝก ปากทางเข้าสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ฝั่งสำนักงานเขตฯ อย่างแข็งขัน จนย่างเข้าปีที่ 6

กลางปี 2558 นายเฉลิมวุฒิ ศรียภูมิ ได้รับแจ้ง จะมีการลักลอบล่าสัตว์ ตรงรอยต่อระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง กับพื้นที่กันชน ด้านเหนือของสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ไม่ไกลจากหน่วยพิทักษ์ป่าทุ่งแฝก

เพราะความเป็นผู้พิทักษ์ป่า หัวหน้าชุดประจำด่านตรวจทุ่งแฝก จึงนำกำลัง วีรบุรุษสุดกล้าจำนวนหนึ่ง ออกลาดตระเวนบริเวณป่าดังกล่าว รวมถึงเฉลิมวุฒิด้วย

เฉลิมวุฒิเล่า…

“ตอนนั้นมันใกล้ค่ำแล้ว หัวหน้าชุดเดินนำหน้า ผมเดินตามมาข้างหลัง

โชคร้าย ผมสะดุดเข้ากับเอ็นเส้นเล็กจิ๋ว ปัง!!! เสียงคล้ายปืน ดังมาในระยะใกล้มาก

กลิ่นดินปืนคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ”

สิ้นเสียงนั้น…ชีวิตของเฉลิมวุฒิ เปลี่ยนไปตลอดกาล

เฉลิมวุฒิเล่าต่อ…

“ตัวผมล้มลง ทุกคนก็หยุดนิ่ง เหมือนตกอยู่ในภวังค์”

ไม่นานนัก หัวหน้าชุดลาดตระเวนตั้งสติได้ จึงส่งเสียงสอบถามความปลอดภัย เมื่อตรวจสอบกำลังพล ปรากฏว่าเห็น “เฉลิมวุฒิ” นอนเจ็บอยู่

“ตอนนั้น ผมยังไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด มีเพียงความชาบริเวณขา ก่อนตาจะเหลือบไปเห็น เลือดสีแดงข้น ไหลเปียกกางเกงเดินป่าข้างซ้าย สภาพกางเกงนั้น ขาดรุ่งริ่ง เอื้อมมือไปจับ เพื่อดูบาดแผล ใจหายวาบ เพราะหน้าแข้งกับน่องขาซ้าย มันขาดรุ่งริ่งยิ่งกว่ากางเกงเสียอีก”

เฉลิมวุฒิ “เดินติดกับดักสัตว์” ซึ่งเป็นกับดักทำมือ มีพวกเศษเหล็กคมๆ อัดอยู่ในปลอกกระสุนลูกซอง แล้วยัดไว้ในท่อเหล็กตัดเกือบเมตร เจาะรูด้านบนให้มีตัวสับลงไปยังแก๊ป ที่เป็นชนวนปะทุ มีสลักที่ขึงไว้ด้วยเอ็นตกปลาบางเฉียบ มองเห็นยาก แม้จะเป็นช่วงกลางวัน

เดชะบุญที่ปากท่อ หรือลำกล้องกับดักนั้น สูงจากพื้นไม่เกินเข่า คงหมายจะเอาสัตว์ตัวเล็กๆเท่านั้น

ทีมลาดตระเวนที่เหลือ ทำการห้ามเลือดแล้วลำเลียงตัวเฉลิมวุฒิ นำส่งโรงพยาบาลอุทัยธานี ทันที

โชคยังดี ที่จุดเกิดเรื่องอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก จึงช่วยชีวิตได้ทัน

แต่…ชีวิตที่ยังมีลมหายใจนั้น ต้องแลกกับการที่ “ผู้พิทักษ์ป่า รักป่าดั่งชีวิต” ต้องกลายเป็น “คนพิการ”

เฉลิมวุฒิ พักฟื้นอยู่บ้านร่วมครึ่งปี ก็กลับมาทำงาน แม้ใจยังอยากจะออกป่า แต่สภาพร่างกายนั้น ผู้บังคับบัญชาพิจารณาแล้ว เห็นว่า ควรประจำด่านตรวจน่าจะดีกว่า

หลังเหตุการณ์ของเฉลิมวุฒิผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน ก็เป็นคราวเคราะห์ของเพื่อนร่วมทีมประจำหน่วยพิทักษ์ป่าทุ่งแฝกอีกคน “จารนัย ไวยธัญญการ” โดนมาจากป่าชุมชนบ้านไผ่งาม คนละฝั่งถนนกับที่เฉลิมวุฒิโดนมาก่อน

ปัจจุบันก็ต้องมาประจำจุดตรวจอีกเช่นกัน…

ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็ไปกวาดล้างปืนผูก หรือแผ่ว อีกหลายกระบอกในป่าไผ่ ที่หุบกระทิง ไม่ไกลจากบ้านเขาไม้นวน โป่งสามสิบ พื้นที่กันชนถัดลงมาทางใต้ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง

เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน เล่าว่า

“บางทีป่าสงวนติดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ที่เป็นป่าชุมชนนี่แหละ ต้องระวังกันให้มาก มักมีคนแอบมาผูกปืนผูก หรือแผ่วไว้เป็นดงเลย ลาดตระเวนกันที ต้องปาดเหงื่อเลยทีเดียว บางทียังแปลกใจ ไม่รู้รอดมาได้ยังไง”

คนโดนยังเจียนตาย ถ้าพวกสัตว์ป่าโดนเข้า ไม่อยากจะนึกว่า ต้องทุกข์ทรมานขนาดไหน

ชุดลาดตระเวนเข้าป่า ไม่เคยกลัวเสือ กลัวงู กลัวกระทิง กลัวช้าง แม้จะเคยถูกกระทิงขวิดเจียนตายกันมาบ้าง วิ่งหนีช้างไล่อย่างฉิวเฉียด

แต่สิ่งที่ชุดลาดตระเวนกลัวที่สุดนั้น กลับเป็น “คน”

การฆ่านั้นทำไม่ยาก สามารรถทำได้ด้วยสารพัดวิธี และเงินเพียงไม่กี่สิบบาท แต่หากจให้ความสูญเสียและสูญพันธุ์ สิ่งเหล่านี้ นำกลับคืนมาได้ยาก และบางอย่างก็นำกลับคืนมาไม่ได้

การกวาดล้างอย่างเข้มข้น รวมทั้งการใช้การตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ประกอบกับบทลงโทษตามกฎหมายที่หนักหน่วง ทำให้สถานการณ์แผ่ว หรือปืนผูก บรรเทาลงไปบ้างในปัจจุบัน แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด

หยุดกับดักสัตว์ป่ามหันตภัยทำร้ายชีวิต พบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายป่าไม้และสัตว์ป่าแจ้งสายด่วนพิทักษ์ป่า โทร 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง

คลิปแนะนำอีจัน
ปริศนา… ฆ่า ยัด ถัง