พ่อแม่ใจสลาย! ลูกตายไม่ทราบสาเหตุ หลังคลอดเพียง 2 ชม.

พ่อแม่จี้ รพ.! ขอความเป็นธรรม หลังลูกลืมตาดูโลกได้เพียง 2 ชม. ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ

ลูกเปรียบเหมือนชีวิต คนเป็นพ่อแม่ย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเสมอ แต่ใครจะคิดว่าการตัดสินใจนี้ จะเป็นการเลือกที่ผิด

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Narudee Muangkamjud ได้โพสต์เรื่องราวของเธอ ถึงการสูญเสียลูกโดยไม่ทราบสาเหตุ ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม โดยมีข้อความระบุว่า

“วันเกิดปีนี้แทนที่เราจะมีความสุขกว่าทุกปี เพราะจะมีเจ้าตัวน้อยมาร่วมฉลองวันเกิดกับเราด้วย แต่….

เชื่อว่าของขวัญที่ดีที่สุดของใครหลายๆคนอาจจะไม่เหมือนกัน แต่สำหรับเราคือการได้มีลูกกับคนที่เรารัก และสร้างครอบครัวไปด้วยกัน เรื่องราวมันจะดี และสมบูรณ์แบบมาก ถ้ามันไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เรื่องอาจจะยาวสักนิดนึงแต่อยากให้ลองอ่านดูค่ะ

เราชื่อน้ำ มีสามีชื่อบี เราสองคนคบกันดูแลกันมาประมาณ 8 ปี เราสองคนช่วยกันทำงาน สร้างเนื้อสร้างตัว ทำธุรกิจมาด้วยกัน เราสองคนวาดฝันไว้อย่างนึงนั้นคือการได้มีลูกด้วยกัน พวกเราพยายามกันมาตลอด 8 ปีที่คบกันมา จนกระทั้งเข้าปีที่ 9 เหมือนฝันนั้นเป็นจริง เหมือนความพยายามของเราที่ผ่านมาไม่สูญเปล่า เราท้อง ดีใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ สามีเราก็ดีใจและตื่นเต้นมาก

แน่นอนว่าลูกใครๆก็รัก และเราในฐานะพ่อแม่ ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของเราอยู่แล้ว เราตัดสินใจฝากท้องและเลือก รพ. ที่ดีที่สุดอันดับต้นๆของประเทศไทย เป็น รพ.เอกชนแถวๆอนุเสาวรีย์ชัยฯ

หลังจากฝากท้องที่ รพ.ที่ว่า เราสองคนก็ดูแลและใส่ใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะตอนนี้ไม่ได้มีแค่เราสองคนแล้ว จะมีเจ้าตัวน้อยอีกชีวิตหนึ่งที่กำลังจะลืมตามาดูโลก โลกที่เราพร้อมจะยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้เขาได้ใช้ชีวิตและเติบโตมาอย่างมีความสุข

จนในที่สุดเราก็ไปคลอดที่ รพ.เอกชนดังกล่าว ทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดี เรานึกในใจ 8 ปีที่รอคอยกับสามี 8 ปีที่เราพยายามวันนี้ เราจะมีเจ้าหนู เจ้าตัวเล็กแล้ว หลังจากนั้นหมอก็เข้ามาทำคลอดเรา ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี เราคลอดธรรมชาติเอง แอบได้ยินเสียงลูกร้องเบาๆ ด้วยความเพลียยังไม่มีแรงพอจะลุกขึ้นไปดูลูก ก็ปล่อยให้หมอทำคลอดส่งต่อให้หมอเด็กไปดูแลต่อ

หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงเราก็นอนรออยู่ในห้องพักพื้นก็คิดในใจว่าอิจฉาสามีเราจัง ที่ได้ออกไปดูลูก คิดขำๆละก็ยิ้มอยู่คนเดียว จนเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง สามีเราก็เดินเข้ามาหาที่ห้องพัก พร้อมกับจับมือและมองหน้าเรา ตอนนั้นคิดว่าคงเป็นห่วงเรามากแหละที่เห็นเราอ่อนเพลียกับการคลอดลูก แต่แล้วประโยคหนึ่งก็ออกมาจากปากของสามีเรา เป็นประโยคที่เชื่อว่าไม่มีพ่อ หรือแม่คนไหนในโลกนี้อยากได้ยิน และไม่อยากแม้แต่จะคิด ประโยคนั้นที่สามีบอกกับเราคือ “น้องเสียแล้วนะ เมื่อกี้เอง หมอแจ้งว่ายังไม่รู้สาเหตุ” มันเหมือนกับว่าโลกจากสีชมพูมันกลายเป็นสีดำ จากความสุขมันกลายเป็นความเศร้า ตกใจ และใจหายอย่างบอกไม่ถูก เราสับสนไปหมดว่ามันเป็นเพราะอะไร มันเกิดอะไรขึ้นกัน ทำไมมันต้องเกิดกับเราด้วย เมื่อ 2 ชั่วโมงที่แล้วเขายังอยู่กับเราในห้องคลอด เรายังได้ยินเสียงลูกร้องอยู่เลย มันอะไรกัน ทำไมต้องเป็นเรา เราสับสนไปหมด เรื่องแบบนี้มันเกิดจากความผิดพลาดของหมอ เกิดจากความผิดปกติของน้อง หรือเป็นเพราะเรากันแน่ เราเสียใจมาก มากที่สุดเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะรู้สึกเสียใจได้มากขนาดนี้ เราได้ถามกับทางสามีว่ามันเกิดอะไรขึ้น สามีบอกกับเราว่าหมอแจ้งว่าไม่สามารถระบุการตายได้ น้องเสียโดยไม่ทราบสาเหตุ เรางงไปหมดจากที่หวังไว้จะได้จัดงานวันเกิดให้ลูกกลับกลายเป็นว่าต้องมาจัดงานศพให้แทน ใครเคยมีเพื่อนมีญาติหรือเคยเจอเหตุการณ์คล้ายกับเราบ้างไหม ในกรณีนี้เราสามารถทำอะไรได้บ้าง ตอนนี้กำลังใจในชีวิตแทบจะหมดสิ้น มันมืดมนไปหมด จนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว คิดถึงแทบขาดใจ

ฝากทุกคนแชร์ด้วยนะคะ อยากให้โรงพยาบาล ช่วยรับผิดชอบชีวิตหนึ่งชีวิตด้วยนะคะ”

กระทั่งวันนี้ 25 ตุลาคม 2564 เธอก็ยังไม่ทราบสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงของลูก จึงรวมตัวกับกลุ่มเพื่อนและญาติๆ แห่ขบวนบิ๊กไบค์ไปตามท้องถนน เพื่อขอความเป็นธรรมจากทาง รพ.เอกชน ดังกล่าว เกี่ยวกับการเสียชีวิตของลูกว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่

ทีมข่าวอีจัน ได้คุยกับคุณดวงฤดี หรือคุณน้ำ เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว เธอได้เปิดใจกับทีมข่าวอีจันว่า ตอนคลอดนั้นเธอใช้วิธีคลอดแบบธรรมชาติ หลังคลอดเธอได้ยินเสียงลูกร้อง แสดงว่าลูกของเธอปกติแข็งแรงดี และคุณหมอที่ทำคลอดก็บอกว่าลูกของเธอแข็งแรงดี

ด้าน นายปรีชา หรือ คุณบี สามี เล่าว่า หลังจากภรรยาคลอดลูก พยาบาลก็นำลูกไปให้กุมารแพทย์ดูแลต่อ และตนก็เฝ้าติดตามเห็นว่าพยาบาล นำลูกไปอีกห้องหนึ่ง เพื่อทำการรักษาบางอย่าง ตนจึงพยามยามเข้าไปถามว่าลูกเป็นอะไร แต่ก็ไม่ได้คำตอบ จนผ่านไป 2 ชม. คุณหมอเดินมาบอกว่า ลูกเสียชีวิตแล้ว โดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุ

หลังจากนั้นคุณบี จึงไปขอประวัติการรักษามาตรวจสอบ พบว่าผิดปกติหลายอย่าง เพราะมีการฉีดสารอะดรีนาลีน ไปที่หัวใจน้องถึง 6 ครั้ง จนมาถึงวันนี้ก็ยังพยายามถามหาสาเหตุ แต่โรงพยาบาลกลับบ่ายเบี่ยงไม่ชี้แจง และบอกว่าโรงพยาบาลไม่ผิด แต่จะมอบเงินจำนวนหนึ่งล้านบาท ให้กับพ่อแม่ในฐานะผู้สูญเสีย แต่ตนและภรรยามองว่าชีวิตลูกทั้งคนไม่สามารถแลกได้ด้วยเงินหนึ่งล้านบาท

ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมข่าวได้พยายามติดต่อไปทางโรงพยาบาลดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ยังอยู่ในระหว่างให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องแล้วทางโรงพยาบาลจะติดต่อกลับ เพื่อแจ้งรายละเอียดต่อไป

คลิปอีจันแนะนำ
สาวโพสต์เตือน ระวังมิจฉาชีพ หลอกให้โอนเงิน แถมอ้างตัวเป็นตำรวจยศใหญ่