ริม แม่น้ำป่าสัก สระบุรี เร่งอพยพ

ชาวบ้านที่อาศัยริม แม่น้ำป่าสักฯ ในพื้นที่ตำบลโคกสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี กว่า 300 ครอบครัว เร่งอพยพขนข้าวของออกจากบ้านเรือน เนื่องจาก 2-3 วันมานี้ระดับน้ำใน แม่น้ำป่าสักฯ ไหลเชี่ยว เอ่อล้นตลิ่ง ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว บ้านหลายหลังน้ำท่วมชั้นสอง เกือบมิดหลังคา ครอบครัวที่อพยพขึ้นมาก่อนหน้านี้เข้าไปพักอาศัยตามวัด กางเต้นท์ริมถนน และอีกหลายครอบครัว เจ้าหน้าที่เร่งจัดหาเต้นท์มากาง เพื่อให้ชาวบ้านได้พักค้างในคืนนี้ ชาวบ้านบอกว่า ระดับน้ำสูงเกรงซ้ำรอยปี 2554 เมื่อถามว่า ประมาณการณ์ได้ไหมว่าต้องอยู่ที่จุดอพยพไปอีกกี่วัน ชาวบ้านตอบว่าอย่างน้อย 20 วัน ถ้าไม่มีฝนตกลงมาซ้ำ แต่ก็ลำบาก เพราะ ขาดแคลนอาหาร ทำครัวลำบาก และ ทำมาหากินก็ลำบากเช่นกัน

ปริมาณน้ำใน แม่น้ำป่าสักฯ ที่เอ่อล้นตลิ่งและเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว ทำให้พื้นที่ใน ตำบลเริงราง อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ชาวบ้าน พระสงฆ์ ต้องอพยพออกจากวัดและบ้านเรือน เพื่อมาอาศัยยังศูนย์อพยพเช่นเดียวกัน ชาวบ้านในพื้นที่นอกจากจะเร่งช่วยกัน กางเต้นท์สร้างศูนย์อพยพเพื่อรองรับผู้เดือดร้อนแล้วแล้ว ยังช่วยกันสร้างโรงครัว เพื่อทำอาหารแจกจ่าย ช่วยกันตามกำลัง

แม้ว่าฝนจะไม่ได้ตกหนักในพื้นที่จังหวัดสระบุรี แต่เกิด น้ำท่วม ขึ้นในพื้นที่ เนื่องจากน้ำใน เขื่อนป่าสักฯ เกินกว่าระดับกักเก็บเป็นวันที่ 2 แล้ว ทำให้ เขื่อนป่าสักฯ ต้องเร่งระบายน้ำเพิ่มจากวันแรก ซึ่ง เขื่อนป่าสักฯ สามารถกักเก็บน้ำได้สูงสุดที่ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่น้ำในขณะนี้มีมากถึง 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงต้องเร่งระบายน้ำออก 1,265 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้พื้นที่ริม แม่น้ำป่าสัก ซึ่งอยู่ท้ายเขื่อน 9 อำเภอ ประสบปัญหาน้ำล้นตลิ่ง เอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชน 9 อำเภอ ที่ประสบปัญหา ได้แก่ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี อำเภอวังม่วง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอแก่งคอย อำเภอเสาไห้ และอำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี รวมไปถึง อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง และอำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดอยุธยา ซึ่งมวลน้ำทั้งหมดจะไหลลงสู่เขื่อนพระรามหก ระบายลงสู่จังหวัดอยุธยาต่อไป