ลุ้นอาการช้างป่า “คุณปู่ป่าละอู” หลังเจ็บหนักจากการต่อสู้และถูกยิง

หมอล็อตนำทีมสัตวแพทย์เข้าช่วยรักษาบาดแผลต่อสู้และถูกยิง ของช้างป่า “คุณปู่ป่าละอู” ลุ้นผ่านพ้นอาการวิกฤติ

จากกรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยเครือข่ายต่างๆได้ทำการรักษาช้างป่าคุณปู่ป่าละอู ครั้งแรก เมื่อวันที่ 10-11 ม.ค. 65 การรักษาระยะใกล้พบว่ามีบาดแผลบริเวณลำตัวหลายจุด โดยเป็นบาดแผลจากการต่อสู้และถูกยิงหลายแห่ง แผลค่อนข้างลึก ติดเชื้อในกระแสเลือดระดับรุนแรง มีหนองไหลจากแผลบริเวณท้ายลำตัว ร่างกายอ่อนแอ ซูบผอม ประกอบกับช้างป่าที่อายุมากแล้ว อาการจึงอยู่ในภาวะวิกฤติ

โดยเมื่อวานนี้ (21 ม.ค. 65) ทีมสัตวแพทย์ นำโดยนายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือหมอล็อต หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานร่วมกับทีมสัตวแพทย์จากส่วนกลางของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทีมสัตวแพทย์จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (ประทับช้าง) ทีมสัตวแพทย์จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย จนท.ทหารเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ เจ้าหน้าที่สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า(WCS) ประเทศไทย และนายประจิน เสียงเพราะ รองนายก อบต.ป่าเด็ง ได้มีการประชุมวางแผนการช่วยเหลือ ที่ศูนย์ข้อมูลอนุรักษ์ช้างป่าแก่งกระจาน ณ ป่าละอู และมีการลงพื้นที่ติดตามอาการ รักษาช้างป่า คุณปู่ป่าละอู บริเวณบ้านป่าแดง ใกล้บริเวณอ่างเก็บน้ำกะหร่าง 3 อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หมู่ 3 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

โดยเริ่มปฏิบัติการในช่วงเวลา 14.00 น. ทำการวางยาซึมช้างป่าคุณปู่ป่าละอู เพื่อทำการรักษา แต่ด้วยสภาวะร่างกายของช้างป่าจากผลการตรวจเลือดครั้งที่แล้วพบว่าช้างป่าค่อนข้างอ่อนแอ มีภาวะติดเชื้อทั่วร่างกาย โลหิตจาง ค่าไตและตับขึ้นสูงมาก จึงทำให้การเข้าถึงตัวค่อนข้างมีอุปสรรค หลังจากให้ยา ช้างป่าได้ล้มตัวลงนอนกับพื้น ซึ่งบริเวณที่ช้างล้มตัวนอนนั้นเป็นร่องพื้นภายในป่า การล้มนอนของช้างที่อยู่ในลักษณะที่หัวต่ำกว่าตัวเสี่ยงต่อภาวะสำลักและอาจมีภาวะอื่นๆแทรกซ้อนตามมา อาจทำให้ช้างเสียชีวิตได้

ดังนั้นการทำงานของทีมสัตวแพทย์ในจึงค่อนข้างเต็มไปด้วยความยากลำบาก ต้องทำงานแข่งกับเวลาและต้องมีการเฝ้าระวังอาการระหว่างที่ช้างป่าล้มตัวลงนอนอย่างใกล้ชิด เพราะทุกนาทีที่ช้างล้มนอนจากฤทธิ์ยาอาจจะทำให้เป็นอันตรายต่อช้างป่าได้

การรักษามีการเก็บเลือดเพื่อติดตามสภาวะของร่างกายปัจจุบัน ให้ยาปฏิชีวนะ ยาบำรุง สารน้ำ และยากำจัดปรสิต ซึ่งบาดแผลของช้างที่พบมีหนองลักษณะข้นไหลออกจากบาดแผลที่ด้านหลังทั้ง 2 แผล เป็นโพรงเข้าไปถึงชั้นกล้ามเนื้อลึกประมาณ 2-3 ฟุต ซึ่งคาดว่าเป็นรอยจากการต่อสู้ ส่วนแผลที่บริเวณหัว และบริเวณกลางลำตัว ตรวจด้วยเครื่องตรวจโลหะพบว่ามีโลหะอยู่ภายในบาดแผลทั่วทั้งร่างกาย โดยทีมสัตวแพทย์ได้ทำการล้างแผลและพบกระสุนภายในบาดแผลจึงได้ทำการนำกระสุนออกเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าเป็นกระสุนลูกปืนซองลูก 9 หรือ OO Buckshot

ปฏิบัติการครั้งนี้ ใช้เวลาตั้งแต่ช้างล้มจนทำแผล ให้ยาเสร็จเรียบร้อย ดำเนินการทุกอย่างในภาวะฉุกเฉินได้ครบถ้วน เป็นเวลา 20 นาที ด้วยการทำงานที่เป็นทีม มีระบบ ช้างป่าคุณปู่ป่าละอู สามารถฟื้นตัวและเดินกลับเข้าป่าได้ และหากินปกติ โดยในคืนนี้จะรอผลการตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการ เพื่อประเมินสุขภาพของช้างป่าคุณปู่ป่าละอู โดยวันนี้(22 ม.ค. 65) จะมีการติดตามอาการของช้างต่อไป การประเมินสภาวะร่างกายของช้างพบว่าช้างยังอยู่ในภาวะวิกฤติ โดยเป้าหมายในการรักษาของทีมสัตวแพทย์ในครั้งนี้ คือช่วยให้ช้างพ้นจากภาวะวิกฤติที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ขณะที่ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบว่าช้างมีภาวะภูมิตกและมีการอักเสบอย่างรุนแรงทั่วร่างกาย ประกอบกับภาวะขาดน้ำอย่างยาวนานและร่างกายอยู่ในภาวะวิกฤติ จึงมีการสร้างเม็ดเลือดขึ้นใหม่เพื่อชดเชยความผิดปกติของร่างกายที่เกิดขึ้น

ส่วนสาเหตุที่ช้างป่าถูกทำร้าย เกิดจากการกระทำของบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น ซึ่งชาวบ้านและประชาชนในพื้นที่ป่าละอูและป่าเด็ง มีความรักและเข้าใจต่อสถานการณ์ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี และการแก้ไขปัญหาตามแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาช้างในพื้นที่ก็กำลังดำเนินการไปสู่เป้าหมาย เพื่อให้คนและช้างป่าอยู่ร่วมกันในสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลเกื้อกูลกัน

คลิปแนะนำอีจัน
จากปังเป็นพัง! #อุทาหรณ์โบท็อกซ์