ศาลอุทธรณ์ยืนตามชั้นต้น ยกฟ้องจำเลย คดีแทงเต้ตาย แม่เสียใจน้ำตาซึม

ศาลอุทธรณ์ยื่นตามชั้นต้น ยกฟ้องจำเลย คดีแทงเต้ตาย ชี้พยานไม่มีน้ำหนัก ด้านแม่เสียใจน้ำตาซึม หาทางสู้คดีฎีกาต่อ

วันนี้(27 พ.ค. 64) ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่ นายณัฐพงษ์ หรือโจ้ เงินคีรี จำเลย ถูกกล่าวหาว่า ใช้อาวุธมีดแทง นายธนิต ทัฬหสุนทร หรือเต้ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 61

โดยคดีนี้ในศาลชั้นต้น โจทก์ไม่ได้ตัวประจักษ์พยานคือ นายพีรวิชญ์ ปุตตะจินารักษ์ หรือตง มาสืบพยาน ประกอบกับพยานหลักฐานไม่สามารถนำสืบได้ว่าจำเลยใช้อาวุธมีดแทงนายเต้เสียชีวิต ศาลชั้นต้นจึงยกฟ้อง ทำให้นายศุภชัย ทัฬหสุนทร พ่อของเต้กระโดดตึกศาลอาญาเสียชีวิต ต่อมาพนักงานอัยการ และนางเรวดี ทัฬหสุนทร แม่ของเต้ ได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์สืบพยานนายพีรวิชญ์เพิ่มเติม

โดย ศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำให้การของ นายพีรวิชญ์ ยังมีข้อสงสัยเรื่องอาการป่วยทางจิต โดยแพทย์ผู้รักษานายพีรวิชญ์ ระบุว่านายพีรวิชญ์มีอาการป่วยจิตเภทรวม มีอาการหูแว่ว หวาดระแวง กลัวคนจะมาทำร้าย ซึ่งเป็นอาการที่ไม่สามารถแยกแยะอาการได้ด้วยตาเปล่า แต่ต้องพูดคุยสังเกตอาการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งในการเบิกความนายพีรวิชญ์ยังอ้างถึงการได้ยินเสียงกระซิบ และในบันทึกชี้ตัวผู้ต้องหาก็ลงชื่อด้วยชื่อเก่า จึงต้องสงสัยว่านายพีรวิชญ์มีอาการป่วยอยู่

นอกจากนี้คำให้การของนายพีรวิชญ์ยังไม่สอดคล้องกับลำดับเหตุการณ์ตามภาพวงจรปิด ซึ่งนายพีรวิชญ์ยอมรับว่าจำเหตุการณ์ไม่ได้แน่ชัด อ้างเพียงเห็นจำเลยดึงอาวุธมีดออกมา แต่ไม่ทราบว่าแทงไปบริเวณใด ขัดแย้งกับพยานอีกหลายปากที่ให้การว่าไม่เห็นจำเลยชักมีดออกมาแทงผู้ตาย เห็นเพียงจำเลยกระโดดถีบผู้ตาย ก่อนที่จะโดนรุมทำร้ายเท่านั้น ขณะที่ร่องรอยบาดแผลบนตัวผู้ตาย ก็ปรากฏแผลถูกแทงบริเวณไหล่ซ้ายบนเพียงแผลเดียว ซึ่งน่าเชื่อได้ว่าแผลดังกล่าวเกิดผู้กระทำอีกรายที่มารุมทำร้ายนายเต้ โดยการกำพวงกุญแจชกเข้าที่ใบหน้าและคอของนายเต้ ไม่ใช่ฝีมือของจำเลย และโจทก์ไม่มีการนำสืบเกี่ยวกับบาดแผลจากการที่จำเลยกระโดดถีบผู้ตาย ดังนั้นปากคำของนายพีรวิชญ์ จึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังได้ว่า จำเลยใช้มีดแทงนายเต้จนเสียชีวิต อีกทั้งยังไม่พบพฤติกรรมในลักษณะคบคิดกันเพื่อทำร้ายผู้ตาย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายกฟ้องจำเลย และยกคำร้องที่ให้จำเลยจ่ายค่าสินไหมทดแทนในคดีแพ่ง

ภายหลังฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แม่ของเต้ เดินออกมาจากศาลด้วยหน้าตาซึมเศร้า พร้อมบอกว่ารู้สึกเสียใจ อย่างไรก็ตาม น้าสาวของเต้ ยืนยันว่าครอบครัวจะปรึกษาทนายความหาทางยื่นฎีกาและหาทางต่อสู้คดีต่อไป