“เศรษฐา” ขอโทษ “ปานปรีย์” หากปรับ ครม.ทำให้ผิดหวัง

“เศรษฐา” ยืนยันปรับ ครม.ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ระบุมีทั้งคนสมหวังและผิดหวัง เคารพการตัดสินใจพร้อมขอโทษ “ปานปรีย์”

หลังจากเมื่อวานนี้ (28 เม.ย.67) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการประกาศ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งคล้อยหลังไม่นานนัก นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รมว.ต่างประเทศ ทำหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรื่องขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

วันนี้ (29 เม.ย.67) เวลา 08.10 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า ตนเองเคารพในการตัดสินใจของนายปานปรีย์ ส่วนตัวรู้จักกันมามากกว่าหลายสิบปี ลูกก็เป็นเพื่อนกัน มีความรักชอบกันเป็นอย่างดี แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็เคารพในการตัดสินใจ ยอมรับว่าหนังสือลาออกของนายปานปรีย์ ถูกเผยแพร่ทางสื่อก่อนที่จะถึงตนเอง  เป็นเพราะความไม่พอใจหรือไม่ ในเรื่องนี้ตนเองขอพูดเป็นองค์รวมมากกว่า เมื่อมีการปรับเปลี่ยนหน้าที่หรือคณะรัฐมนตรีต่าง ๆ  เชื่อว่ามีคนที่พอใจและไม่พอใจ มีสมหวังและไม่สมหวัง ดังนั้น จึงอยากโฟกัสในสิ่งที่มีความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงานร่วมกันตลอด 7 – 8 เดือนมากกว่า ซึ่งงานที่ทำมาถือเป็นประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และเชื่อว่ารัฐมนตรีคนใหม่ที่จะมาทำหน้าที่แทนจะมาสานต่อในเรื่องที่ดี ๆ 

นายเศรษฐา กล่าวยอมรับว่า ได้ส่งข้อความถึงนายปานปรีย์ ในกลุ่มงานต่างประเทศ ซึ่งได้ขอโทษ หากทำให้ไม่สบายใจในเรื่องใด และขอขอบคุณที่ช่วยงานกันมา ทั้งนี้ การปรับคณะรัฐมนตรี ได้มีการแจ้งและเชิญรัฐมนตรีมาพูดคุยกัน ซึ่งนายปานปรีย์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่ได้เชิญมาพูดคุยและขอไม่เปิดเผย เพราะเป็นการพูดคุยกันระหว่างบุคคลสองคน  ตนเองมั่นใจว่า ได้พูดสิ่งไหนไปและตนเองในฐานะนายกรัฐมนตรีก็มีความชัดเจนในเรื่องที่บอกกล่าวสิ่งไหนไป หลังจากนี้จะนำรายชื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็จะทำหน้าที่ดูแลกระทรวงการต่างประเทศก่อน ตามการมอบหมายงานของคณะรัฐมนตรี

ทั้งนี้ นายเศรษฐา ยอมรับว่ามีบุคคลใหม่ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้ทาบทาม เพราะต้องมีการตรวจสอบจากคณะกรรมการคัดกรองเกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติ จึงไม่อยากบอกออกไปก่อน เพราะอาจจะสมหวังหรือผิดหวังได้ ทั้งนี้ ต้องเคารพในกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ ที่มีมา และยืนยันว่าตนเองเข้าใจว่ามีรัฐมนตรีหลายคนที่สมหวัง และอาจจะไม่พอใจ แต่ยืนยันว่าตนเองรับผิดชอบในเรื่องนี้  และก็ต้องมีการพูดคุยกัน

ส่วนจะเป็นคนนอกพรรคหรือคนในพรรคที่จะมาแทนตำแหน่งนั้น นายกฯ ระบุว่า พูดลำบาก แต่บุคคลนี้อยู่ในแวดวงการทูตและการเมืองมาก่อน โดยอยู่เบื้องหลังการทำงานของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด และจิตวิญญาณยึดโยงพี่น้องประชาชน ส่วนกรณีที่นายปานปรีย์ ระบุเหตุผลลาออกว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จำเป็นต้องควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็มีเหตุมีผล แต่หลายหน่วยงานก็ต้องมีการประสานการทำงานร่วมกัน ซึ่งปัจจุบันก็มีรองนายกรัฐมนตรี 6 คนแล้ว และเชื่อว่าก็เพียงพอ หากทุกกระทรวงต้องควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีก็คงเป็นไปไม่ได้


คลิปอีจันแนะนำ

โซเชียลแห่ให้กำลังใจ ตร.กองร้อยน้ำหวาน พร้อมกลับมาสู้ต่อ