วันนี้ (1 พ.ค.67) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 22 สิงหาคม พุทธศักราช 2566 แล้ว และแต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน ตามประกาศลงวันที่ 1 กันยายน พุทธศักราช 2566 และประกาศครั้งสุดท้าย ลงวันที่ 27 เมษายน พุทธศักราช 2567 นั้น
บัดนี้ นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ลาออกจากตำแหน่ง สมควรแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแทนตำแหน่งที่ว่าง เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 30 เมษายน พุทธศักราช 2567
สำหรับก่อนหน้า ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง รัฐมนตรีลาออก ความว่า
ด้วย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ขอลาออก จากตําแหน่งตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2567 ความเป็นรัฐมนตรีของ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร จึงสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2567 ตามความในมาตรา 170(2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ประกาศ ณ วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567
ทั้งนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ทำงานในกระทรวงการต่างประเทศหลายปี เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ อาทิ
-เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำเครือรัฐออสเตรเลีย
-อดีตเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐฟิจิ
-อดีตเอกอัครราชทูตกรุงกาฐมาณฑุ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล
-อดีตที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ ขณะที่ นายปานปรีย์ ดำรงตำแหน่งเป็น รมว.ต่างประเทศ
นายมาริษ เกษียณอายุราชการในตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา และยังเคยทำงานทั้งกรมองค์การระหว่างประเทศ กรมสารนิเทศ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และเป็นข้าราชการที่ส่งไปประจำทำเนียบรัฐบาล สมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ