สมาคมอุทยานแห่งชาติ ยื่นข้อเรียกร้องให้ รัฐบาล แก้ปัญหา ป่าแก่งกระจาน ถูกบุกรุก

อ.วัฒนา ตัวแทน สมาคมอุทยานแห่งชาติ ยื่น 8 ข้อเรียกร้องจี้ รัฐบาล แก้ปัญหา ป่าแก่งกระจาน ถูกบุกรุก

กรณีที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ แก่งกระจาน สำรวจพบการบุกรุกแผ้วถางป่าแก่งกระจาน ก่อนจะพบกลุ่มบุคคลอาศัยอยู่ในป่า ซึ่งก่อนหน้านี้ ในปี 2524 ทางรัฐฯ ได้ประกาศเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจรจาให้ ชาวบ้านที่อาศัยในป่า ย้ายมายังที่ดินที่รัฐจัดสรร คือ หมู่บ้านโป่งลึก บางกลอย

ซึ่งในช่วงแรก ชาวบ้านให้ความร่วมมือย้ายลงมา แต่เกิดปัญหาที่ทำกินไม่เพียงพอ เป็นเหตุให้อยู่กินลำบาก จนล่าสุด มีกลุ่มชาวบางกลอยจำนวนหนึ่ง ย้ายขึ้นไปทำเพิงพัก ในป่า ซึ่งเดิม คือ บ้านบางกลอยบน เจ้าหน้าที่อุทยาน จึงต้องเข้าไปเจรจาผลักดันให้ออกมานั้น

ความคืบหน้าล่าสุด (1 มีนาคม 2564) อาจารย์ วัฒนา วชิโรดม ตัวแทนสมาคมอุทยานแห่งชาติ พร้อมขาวเพชรบุรี ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ศูนย์รับราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

อาจารย์ วัฒนา เผยว่า ตนเองได้ศึกษา และรวบรวมข้อมูลกรณีปัญหาชุมชนบ้านบางกลอย มาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว พร้อมทั้งได้ส่งผู้แทนขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจป่า บริเวณป่าที่ถูกถางและเผาถางใหม่ ทางสมาคมอุทยานแห่งชาติ และเครือข่ายองค์กรอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงมีข้อสังเกต และข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี ดังนี้

1.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นผืนป่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องพิทักษ์รักษาไว้อย่างดีที่สุดเพื่อเป็นมรดกอันล้ำค่าของคนไทยทั้งประเทศและของคนทั้งโลก ควรที่จะต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองดูแลรักษา เพื่อให้คงความอุดมสมบูรณ์ตลอดไป

2.สภาพปัจจุบันของชุมชน บ้านบางกลอย และบ้านโป่งลึก ที่ตั้งอยู่สองฝั่งของแม่น้ำเพชรบุรี จากการเข้าพื้นที่ชุมชนดังกล่าวสมาคมอุทยานแห่งชาติพบเห็นว่ามีหลายหน่วยงานเข้าไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน เช่น โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน แผงโซลาเซลล์ เสารับส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ สถานีอนามัย โรงทอผ้าของศูนย์ศิลปาชีพ ศาลาประชาคม เป็นต้น ซึ่งนับเป็นชุมชนกลางป่าอนุรักษ์ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากพอสมควร

3.กลุ่มคนเหล่านี้น่าจะเพิ่งมาอยู่ใหม่ เนื่องจาก กลุ่มคนที่อยู่ในป่าที่พบในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2564 ได้มีการกล่าวอ้างว่า พวกตนเป็นชาวชุมชนบ้านบางกลอยล่าง ซึ่งย้ายลงมาตั้งแต่ปี 2539 แต่ไม่ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกิน แต่ในขณะที่ข้อเท็จจริงจากคลิปและภาพข่าว พบว่า เป็นกลุ่มคนที่มีอายุอยู่ในช่วงวัยรุ่น และส่วนใหญ่พูดภาษาไทยไม่ได้ จึงเป็นข้อน่าสังเกตว่า หากกลุ่มคนดังกล่าวเป็นชาวบ้านบางกลอยล่างซึ่งย้ายลงมาอยู่ตั้งแต่ปี 2539 จริงตามที่กล่าวอ้าง เวลาผ่านมานานราว 25 ปีแล้วก็ควรจะเป็นผู้ที่มีบัตรประชาชนไทย และพูดภาษาไทยได้แล้ว เพราะลูกหลานที่เกิดในประเทศไทยย่อมได้การศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนโป่งลึก ดังนั้นจึงสันนิษฐานได้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ ส่วนใหญ่น่าจะย้ายมาใหม่

4.ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันค้นหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานะบุคคลของกลุ่มคนที่เข้าไปอยู่ในป่าใหม่ทุกคน ให้ชัดเจน จากนั้นให้พิจารณาดำเนินการให้มีการแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง เหมาะสม เป็นธรรม ให้กับชาวบ้านบางกลอย ตลอดจนราษฎรไทยกลุ่มอื่นๆ ที่มีความเดือดร้อนในเรื่องที่ดินทำกินและต้องการได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตจากภาครัฐเช่นเดียวกัน

5.หากพบว่ากลุ่มคนดังกล่าว เป็นผู้ที่เพิ่งลักลอบหรือย้ายเข้ามาใหม่ จากประเทศเพื่อนบ้าน ขอให้นายกรัฐมนตรี กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยเร่งด่วน และขยายผลไปยังเรื่องการกระทำผิดกฎหมายในเรื่องอื่นๆ ต่อไปด้วย

6.ขอให้มีการดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มบุคคล ที่สนับสนุนการบุกรุกป่าอย่างเด็ดขาด

7.ขอเรียกร้องให้รัฐบาล ยกเลิกบันทึกข้อตกลงเพื่อแก้ไขปัญหากรณีบางกลอย-ใจแผ่นดิน ที่จัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 โดยเร็ว เพราะเนื้อหาของบันทึกข้อตกลงฉบับดังกล่าว ไม่ชอบด้วยกฎหมายและขัดต่อคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด อีกทั้งหนังสือที่อ้างถึงเนื้อหาของบันทึกข้อตกลงยังทำให้สังคมเข้าใจคาดเคลื่อน และทำให้ชาวบ้านบางกลอยใช้เป็นใบเบิกทางว่ารัฐบาลอนุญาตให้กลุ่มที่อ้างว่าเป็นกลุ่มชาวบ้านบางกลอยกลับขึ้นไปอยู่อาศัยทำกิน ยังบริเวณพื้นที่บางกลอยบน ทำให้เกิดการถาง เผาป่า สร้างความเสียหายต่อทรัพยากรป่าไม้ และขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทำให้กระบวนการบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความยากลำบาก และป่าต้นน้ำชั้น 1 ของแม่น้ำเพชรบุรี ได้รับความเสียหายไปจำนวนกว่า 150 ไร่

8.ขอให้นายกรัฐมนตรี ได้กำชับและสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการในกระบวนการบังคับใช้กฎหมายในการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้กระทำผิด ที่บุกรุกทำลายป่าตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 อย่างเคร่งครัด

บทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ยังไม่มีใครให้คำตอบได้…