สว. ผ่าน กม. ฉีดไข่ฝ่อ ป้องกันกระทำผิดซ้ำ เกี่ยวกับเพศ คะแนน 145 ต่อ 0

ที่ประชุม สว. มีมติ ผ่าน กม. ฉีดไข่ฝ่อ เพื่อ ป้องกันกระทำผิดซ้ำ เกี่ยวกับเพศ ด้วย คะแนน 145 ต่อ 0 เสียง

วุฒิสภา พิจารณาร่างพ.ร.บ.ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ…. ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว

โดยร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ มี 43 มาตรา กมธ.ได้แก้ไข 12 มาตรา มีสาระสำคัญคือ การเพิ่มมาตรการติดตามผู้กระทำความผิดทางอาญาเกี่ยวกับเพศ หรือการใช้ความรุนแรง เช่น การฆาตกรรม การข่มขืนกระทำชำเรา ความผิดทางเพศเกี่ยวกับเด็ก การทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ที่แม้จะถูกจำคุกพ้นกำหนดโทษ ได้รับการปล่อยตัวสู่สังคมแล้ว แต่มีผู้กระทำความผิดส่วนหนึ่ง มีแนวโน้มทำผิดซ้ำในรูปแบบเดิมอีก จึงต้องมีกฎหมายเฉพาะเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ โดยกำหนดให้มี ทั้งมาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด มาตรการเฝ้าระวังภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ และมาตรการคุมขังฉุกเฉิน ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำที่อาจเกิดขึ้นอีก

ในส่วนมาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด จะมีมาตรการทางการแพทย์ สามารถให้ยากดฮอร์โมนเพศชาย ฉีดให้แก่ผู้กระทำผิด เพื่อให้ฝ่อ หากเห็นว่ามีความจำเป็นต้องใช้ โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช และอายุรศาสตร์อย่างน้อย 2 คน เห็นพ้องกันและได้รับความยินยอมจากผู้กระทำผิด และให้นำผลการใช้มาตรการทางการแพทย์ดังกล่าว เป็นเงื่อนไขพิจารณาลดโทษ พักการลงโทษ หรือให้ผู้กระทำผิดได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดได้

ขณะที่นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อภิปรายว่า การฉีดยาดังกล่าวไม่ได้หมายถึงทำให้ไข่ฝ่อ แต่เป็นยาลดฮอร์โมนทางเพศ เนื่องจากผู้กระทำผิดหลายคนบอกว่าไม่ได้อยากทำความผิด แต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จึงอยากให้ช่วยให้ควบคุมตัวเองได้ ส่วนข้อสงสัยว่า ผู้กระทำความผิดต้องยินยอมให้ฉีดจึงจะกระทำได้ แล้วจะมีคนยินยอมให้ฉีดหรือไม่นั้น เชื่อว่ามีคนยินยอม โดยคนที่ยินยอมให้ฉีดคือ คนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้จะยินยอมให้ฉีด รวมถึงถ้ายินยอมให้ฉีดจะได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษให้เบาลง ทำให้มีโอกาสได้รับความยินยอม

ด้านพล.อ.นพ.ไตรโรจน์ ครุทเวโช ส.ว.ในฐานะ กมธ. ชี้แจงว่า ปัจจุบันยาที่ใช้รักษาคือยาลดฮอร์โมนเพศชาย เพื่อกดการสร้างฮอร์โมน์ที่ต้องฉีดทุก 3เดือน แต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่า ทำให้ไข่ฝ่อจริงหรือไม่ แต่ต่อไปจะมียากินที่ขณะนี้พบว่า ช่วยลดพฤติกรรมผิดปกติได้ ส่วนกรณีที่ยังไม่มีการออกกฎหมายรองรับให้แพทย์ฉีดยาให้ฝ่อนั้น ทั้งนี้เชื่อว่า หลังกฎหมายฉบับนี้ผ่าน ทางแพทยสภาจะไปออกกฎหมาย เพื่อรองรับกฎเกณฑ์ดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ลงมติวาระ 3 เห็นชอบด้วยคะแนน 145 ไม่เห็นด้วยไม่มี งดออกเสียง 2 เสียง ซึ่งหลังจากนี้จะต้องส่งต่อให้ คณะรัฐมนตรี พิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป

คลิปแนะนำอีจัน
กรี๊ด!!! นึกว่าต้องตามกู้ภัย