หมอปลา ยอมรับ ส่ง ทนาย – นักข่าว ปลอมตัวไปหา หลวงปู่แสง

หมอปลา ยอมรับ ส่ง ทนาย – นักข่าว ปลอมตัว ไปหา หลวงปู่แสง อ้างเพื่อเก็บหลักฐาน

หมอปลา ชี้แจงอีกครั้ง กรณีถูกกระแสตีกลับ หลังไปวัดป่าดงสว่างธรรม อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร และไปหา หลวงปู่แสง ซึ่งเป็นพระเกจิ โดยมีการเข้าไปสอบถามถึงกรณี มีสีกาโดนจับเนื้อต้องตัว จับหน้าอก อ้างเป็นการช่วยบรรเทาอาการป่วย

ภายหลัง มีคนจับผิดว่า หมอปลา สร้างสถานการณ์ และหลักฐานขึ้นมา ทำให้เกิดความเสียหาย

ซึ่งหมอปลาได้มีการไลฟ์สด ชี้แจงไปแล้วเมื่อวันที่ 12 พ.ค.65 เวลา 16.46 น. ยืนยันไม่มีการสร้างหลักฐาน การลงพื้นที่ไปยังวัดป่าดงสว่างธรรม เนื่องจากได้รับร้องเรียนจากผู้เสียหาย

แต่ต่อมา วันศุกร์ 13 พ.ค. 65 เวลา 14.46 น. หมอปลา แถลงอีกครั้ง โดยมีคำถามจากทางบ้าน และนักข่าว ที่ฝากคำถามไว้

อีจัน ถอดคำแถลงของหมอปลามาให้แล้วค่ะ

หมอปลาเริ่มต้นด้วยประโยค

“อย่าเพิ่งด่าก่อน ให้ฟังข้อเท็จจริง”

ซึ่งมีคนหลายคนตั้งข้อสังเกตต่างๆ ผมอยากจะบอกว่าผมเนี่ย จับมากมายก่ายกองทั้งที่เป็นข่าว และไม่เป็นข่าวแต่เรื่องหลวงปู่แสง

มีคนร้องเรียนมา 2 เคสจริง แต่มันไม่มีคลิป ไม่มีหลักฐาน

ผมก็เลย ส่งน้องทนายเข้าไปในพื้นที่รอบแรก ผลปรากฏว่า มันก็เป็นไปตามจากแหล่งข่าวที่อ้างว่า พฤติกรรม มีการจับหน้าอกต่างๆ ซึ่งพฤติกรรมจับหน้าอกต่างๆ พฤติกรรมนี้เราก็รู้แล้วว่ามันมาจากลูกศิษย์


คือลูกศิษย์รับรู้เห็น กระทั่งตัวแม่ชีเอง ซึ่งรอบแรกน้องเข้าไปก็เจอพฤติกรรมอย่างแหล่งข่าวพูด แต่เราก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรกับนักข่าวเรากลัวว่าจะพลาด เพราะไม่มีคลิปไม่มีหลักฐาน


ก็เลยส่งทีมไปรอบที่2 ซึ่งรอบที่2 เนี่ย น้อง 2 คน มันกลัวผมก็เลยให้ นักข่าว(ผู้หญิง)ไปเป็นเพื่อน แต่จังหวะที่ไปถึงเขากลับเรียกนักข่าวเข้าไป แต่ไม่เรียก 2 คนนั้นเข้าไป

นักข่าว ก็เลยเข้าไป

นี่คือต้นสายปลายเหตุทั้งหมด

เราไม่ได้มีการจัดฉากใดๆ ทั้งสิ้นแต่เราไปตามข้อมูลแหล่งข่าวที่ยืนยันมา 2 เคส ว่าพฤติกรรมเป็นแบบนี้แม่ชีรู้เห็นเป็นใจพระลูกศิษย์ รู้เห็นเป็นใจ

เข้าใจนะเราส่งไป 2 ครั้ง น้อง 2 คนแรกมันกลัว เพราะรอบแรกมันโดนมาแล้ว มันกลัว

แต่เราก็อยากจะรู้ว่ารอบที่ 2 จะเป็นเหมือนเดิมไหม มันก็เป็นเหมือนเดิมครับ

แล้วรอบที่ 2 นักข่าว มันไปเป็นเพื่อน ไม่ได้รู้เห็นอะไรหรอก

แต่ผมนี่แหละเอานักข่าว ไปเป็นเพื่อน

คำถาม : เรื่องนี้ต้นสังกัดนักข่าวรู้เรื่องไหม ?

หมอปลา : เรื่องนี้ผมรับประกันว่าต้นสังกัดไม่รู้เรื่อง จะไปโทษต้นสังกัดไม่ได้ แต่ผมบอกแล้วว่า การลงพื้นที่แต่ละครั้ง เราต้องมีคลิปมีหลักฐาน เข้าใจไหมครับ

ซึ่งในวันที่ลงพื้นที่ นักข่าว ก็ยังไม่รู้ว่า มันต้องทำอะไร

แค่เราบอกให้นักข่าวคนนี้ไปเป็นเพื่อนน้องทนาย 2 คนนั้้น เข้าใจนะ

คำถาม : นักข่าวคนนั้นเข้าไปเพื่ออะไร ?

หมอปลา : คือเข้าไปเป็นเพื่อนเฉยๆ เพราะว่าเราก็อยากรู้ว่าพฤติกรรมครั้งแรกที่น้อง 2 คนนั้นเข้าไปเนี่ย มันเป็นยังไง

แต่เรายอมรับว่าครั้งแรกที่น้องสองคนเข้าไป น้องกลัว น้องกลัวมาก แต่เราก็อยากรู้พฤติกรรมอย่างที่แหล่งข่าวพูดหรือป่าว

ความจริง ผมบอกเลยว่าการที่เราจะทำอะไรเนี่ย ผมจะต้องมีหลักฐาน คือสิ่งที่สำคัญ

เราต้องมีหลักฐานว่า แหล่งข่าวเนี่ยพูดมาจริงหรือไม่จริง

แล้วมันก็เป็นจริงตามคลิปที่เราเห็นครับ เราไม่ได้มีการจัดฉากใดๆ ทั้งสิ้น

เพียงแต่เราไปพิสูจน์ตามข้อเท็จจริง ว่าเขาได้ทำอย่างที่แหล่งข่าวของเราโดนมารึป่าว

ซึ่งสุดท้ายก็เป็นอย่างคลิป เราไม่ได้จัดฉาก


ไปรอบแรก ตัวของแม่ชีก็มีการพูดด้วยนะ ว่าหลวงพ่ออาจจะมีการจับ แต่เราไม่คิดว่ามันจะจับแบบนั้น แต่ไปรอบ 2 เนี่ย ไม่มีการพูด

คำถาม : ตอนที่ทีมงานหมอปลาเข้าไป ทั้งรอบแรก รอบสอง รู้ไหมว่าพระท่านป่วย ?

หมอปลา : เราไม่รู้ครับ เราไม่รู้ เพราะถ้าพระท่านป่วย ตอนนั้นเราคิดว่า เฮ้ยถ้าพระป่วยเนี่ย ทำไมพระที่อยู่ข้างๆ หรือแม่ชีตรงนั้นเนี่ย ไม่เอาไปรักษาหล่ะ

เราไม่คิด แต่เราสังเกตุถึงพฤติกรรม ว่าทำไมพระพี่เลี้ยงที่อยู่ข้างๆเนี่ย ทำไมถึงปล่อยให้จับ อันนั้นคือสิ่งที่ ผมและน้องทนายที่เข้าไป สงสัยเท่านั้น

คำถาม :บางคนบอกว่าออกมาแก้ตัวหรือป่าว หรือว่าแถ ที่พูดความจริงหรือป่าว ?

หมอปลา : ผมไม่ได้มาแก้ตัว ให้กับใคร อันนี้คือพูดความจริง เราพูดความจริง

ก็ผมบอกแล้วว่าทุกอย่างมันมีหลักฐานและผมไม่ได้มาจัดฉาก เพราะแหล่งข่าวของเรามีจริง แหล่งข่าวที่ออกรายการโหนกระแสนั่นคือแหล่งข่าวคนแรก เข้าใจไหม

คำถาม : ตอนนี้ทัวร์บางส่วนก็ไปลงกับผู้เสียหายคนแรกด้วยว่า มาร่วมมือกับหมอปลา ?

หมอปลา : ผู้เสียหายคนแรกเราไม่รู้จัก และไม่มีการร่วมมือ เพียงแต่เพราะเขาเจอพฤติกรรมแบบนี้ เราก็เคยบอกเขาว่าแล้วจะให้ผมช่วยยังไง เพราะคุณไม่มีคลิปไม่มีหลักฐาน

ผมก็เลยปรึกษากับทีมของผมว่า ถ้าเราจะทำเคสแบบนี้ ถ้าเราไม่มีหลักฐานเราทำไม่ได้ เราก็บอกแหล่งข่าวนะ

ซึ่งแหล่งข่าวก็ให้ความร่วมมือดี ว่าหนูเจออะไรบ้าง แม่เจออะไรบ้าง ก็แบบนี้

นี่คือที่มาของเรื่องราวทั้งหมด

หลายคนว่าผมเซ็ท ผมไม่ได้เซ็ท แต่ผมบอกว่า ผมต้องลงพื้นที่ก่อน และทุกเคสผมต้องลงพื้นที่ สำรวจก่อน หรือบางเคสถ้าเรามีแหล่งข่าว อยู่ในพื้นที่ เราก็ต้องอาศัยแหล่งข่าวคนนั้น เพื่อเป็นคนบอก


จากเคสข่าวบางหญ้าแพรก แหล่งข่าวเราอยู่ตรงนั้น อันนั้นเราไม่ต้องลงพื้นที่ เราอาศัยแหล่งข่าว แต่เคสนี้ แหล่งข่าวของเรา อยู่ต่างจังหวัด เราก็ต้องส่งทีมมาก่อนล่วงหน้า แล้วมันก็เป็นอย่างที่ แหล่งข่าว คนที่ 1 คนที่ 2 บอก เราจะบอกว่า วันนี้สื่อเขาไม่รู้ แต่เราก็เป็นคนส่งหลักฐานให้สื่อ แม้กระทั่งแชทบางตัว หรือแหล่งข่าวเสียหาย ต้องให้สื่อสัมภาษณ์ เข้าใจนะครับ รู้เรื่อง จบเรื่องแล้ว

คำถาม : มีอะไรฝากถึงศิษย์ไหม เพราะเขาก็อยากให้ หมอปลาขอโทษ ขอขมา


หมอปลา : คือผมบอกแล้วว่า วันนี้ที่เราจะไปขอโทษ ขอขมา ก็มีฝั่งนั้น ว่าเขาไม่ต้อนรับ เราก็ไม่อยากทะเลาะเบาะแว้ง แต่เราก็ขอโทษผ่านสื่อไปแล้ว

ว่าเนี่ยพฤติกรรมที่เราได้มา แหล่งข่าวที่เราได้มา มันเป็นแบบนี้ หมอปลาก็ลงไปพิสูจน์ ว่ามันจริงเท็จประการใด แล้วมันก็เป็น

แต่ผมย้ำว่า เรื่องนี้ สื่อไม่ได้ร่วมมือกับหมอปลา ผมเป็นคนวานนักข่าวไปเป็นเพื่อน น้องทนาย 2 คนนั้นเท่านั้น

คำถาม : แล้วนักข่าวคนนั้นรู้ไหม ว่าจะต้องขึ้นไป ?

หมอปลา : น้องไม่รู้ครับ แต่ปรากฏว่า พระรูปนั้น เขาเรียกน้องเข้าไป เขาก็ต้องไปครับ เข้าใจนะครับ

คำถาม : ตอนนี้มีอะไรอยากจะฝากคนที่ไปโจมตีนักข่าวคนนั้นไหม ?

หมอปลา : ไม่ต้องไปโจมตีน้องหรอก คือตอนนี้เราเข้าใจน้อง ความจริงเรื่องราวทั้งหมดมันก็เกิดมาจากแหล่งข่าวที่เล่าให้เราฟัง 2 เคส แล้วตอนนี้มันก็ส่งมาหลายเคส

แต่เมื่อเรารู้ว่าหลวงปู่ป่วย ผมก็บอกแหล่งข่าวว่า ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเขาป่วย เราก็ขอโทษผ่านสื่อว่าเราขอโทษ

แม้กระทั่งแหล่งข่าวเองไม่รู้ว่าหลวงปู่ท่านป่วย แล้วมีการเอาข้อมูลมาให้หมอปลา

แต่ถ้าเรารู้ว่าหลวงปู่ท่านป่วยเราก็ไม่เข้าไปยุ่งแก

สิ่งที่เราสงสัยเมื่อหลวงปู่ป่วย

แล้วทำไมพระลูกศิษย์เหล่านี้ถึงไม่มาดูแลท่านครับ ทำไมถึงปล่อยให้ท่านมาเป็นแบบนี้ ถ้าเกิดว่าพระลูกศิษย์ตรงนั้นบริสุทธิ์ใจก็จบไปแล้ว คุณเอาหลวงปู่ไปรักษา

แม้กระทั่งตัวแม่ชีในวัดเอง ก็รู้พฤติกรรมของหลวงปู่ แล้วทำไมไม่เอาหลวงปู่ไปรักษาที่ถูกต้อง

แต่วันนี้ในมุมมองกลับกัน ถ้าคุณจะเห็นใจหมอปลาหรือจะไม่เห็นใจก็ได้ ถ้าผมไม่มาลงเคสนี้ แล้วคุณเชื่อหรือว่าหลวงปู่จะต้องตกเป็นเหยื่อ ของพระพี่เลี้ยงเหล่านั้นอีกกี่ปี อันนี้ผมไม่ได้เข้าข้างนะ

วันนี้ผมน้อมรับในสิ่งที่เราทำพลาด สิ่งที่พลาดไปเราก็ยอมรับว่า 1 2 3 มันเป็นอย่างนี้

แต่ถ้าในมุมมองกลับกัน ถ้าวันนี้ผมไม่มาเปิดโปงถึงพระพี่เลี้ยงต่างๆ ถึงคนในวัดต่างๆ แล้วหลวงปู่จะได้ทำการรักษาอย่างถูกต้องเหรอ

ถ้าผมยังไม่ลงมาวันนี้ ผมก็ยังเชื่อว่าหลวงปู่ก็ต้องตกเป็นเหยื่อของพระลูกศิษย์เหล่านั้นหรือเปล่า อันนี้คือผมไม่ได้แก้ตัวนะ คุณจะด่าผมก็ได้ แต่ผมพูดหลักของความจริง เข้าใจยังว่าวันนี้คุณด่าผมแต่คุณเชื่อไหม ที่ผมลงพื้นที่ผมไม่ได้ว่ากล่าวอะไรหลวงปู่เลย ถ้าคุณไปดูคลิปเต็มๆ ผมไปถามพระพี่เลี้ยงและถามคนบริเวณนั้น ผมไม่ได้ไปแตะต้องหลวงปู่

แต่กลับกันว่าถ้าวันนี้ผมไม่ลงพื้นที่มา หลวงปู่จะได้รับการรักษาไหมหรือหลวงปู่จะต้องเป็นเหยื่อของพระและลูกศิษย์ในวัดไหม

สังคมฟังนะครับ ผมเข้าใจวันนี้ผมต้องฝากขอโทษลูกศิษย์ ศิษย์ญานุศิษย์

สิ่งที่เราทำไป เพราะหลวงปู่เป็นเหยื่อจริง เป็นเหยื่อใครล่ะ ศิษย์ญานุศิษย์ไหม ที่เอาหลวงปู่มานั่งเพื่ออะไร และผมเชื่อว่าเงินไม่ใช่แค่ 50 กว่าล้าน เพราะยอดแต่ละวันที่เราเห็น มันมีคนมาให้ทั้งวัน

วันที่เราลงพื้นที่ก็มีพระภิกษุสงฆ์มากราบมาถวายเงินและเงินเหล่านั้นอยู่ที่ใครและเพจต่างๆที่โพสต์ แสดงโกหกเรื่องปาฏิหาร์ยกันเพื่ออะไร

ทุกคนอาจจะด่าหมอปลา แต่อย่างหนึ่งคือหลวงปู่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ผมอยากให้มองกลับกันครับ ผมไม่ชอบแค่พวกหิวแสง ด่าๆๆ ถ้าผมไม่มาเปิดโปงหลวงปู่จะได้รับการรักษาไหม ผมฝากไว้ให้คิดครับ

คลิปแนะนำอีจัน
หมอปลา ยอมรับส่งทนาย-นักข่าว ปลอมตัวไปหา หลวงปู่แสง