อัยการสงขลา สั่งไม่ฟ้อง! ปล่อยตัว เสี่ยโจ้ พ่อค้าน้ำมันเถื่อน

จากเหตุการณ์ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) จับกุม นายสหชัย หรือโจ้ พ่อค้าน้ำมันเถื่อน เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้สั่งฟ้องเพิ่มเติมในความผิดฐานฟอกเงิน ยึดของกลาง เป็นน้ำมันเถื่อนกว่า 2,000 ลิตร และเงินสดอีก 48 ล้านบาท

หนีไม่รอด! เสี่ยโจ้ เจ้าพ่อน้ำมันเถื่อน รายใหญ่ โดนรวบพร้อมของกลาง

การจับกุมนายสหชัยฯ หรือโจ้ ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมานั้น ตำรวจได้ทำการจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 60/2564 ลงวันที่ 19 ก.พ. 64 พร้อมแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ความผิดฐาน พ.ร.บ.ฟอกเงิน ซึ่งเป็นหมายจับที่ชอบด้วยกฎหมาย และตำรวจได้กระทำการจับกุมโดยใช้อำนาจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนจะส่งตัวผู้กระทำความผิดไปยังสำนักงานอัยการผู้รับผิดชอบ ตามหมายจับจังหวัดสงขลา

ล่าสุดเมื่อวานนี้ 10 พ.ย. 64 สำนักงานอัยการจังหวัดสงขลา ปล่อยตัวนายสหชัยฯ หรือโจ้ พ่อค้าน้ำมันเถื่อน หลังมีความเห็น “สั่งไม่ฟ้อง” พร้อมยื่นสำนวนให้ ผบ.ตร.พิจารณา ว่าเห็นพ้องหรือไม่

ตำรวจสอบสวนกลางจึงขอชี้แจงในการดำเนินการปล่อยตัว 3 ประเด็น ดังนี้

ประเด็นที่ 1 สำหรับการส่งตัวนายสหชัยฯ หรือโจ้ ไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดสงขลานั้น เป็นการส่งตัวตามที่ได้มีการส่งสำนวนคดีไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดสงขลาก่อนหน้านี้ เพื่อให้พนักงานอัยการส่งฟ้องนายสหชัยฯ หรือโจ้ ต่อศาลตามอำนาจต่อไป

ซึ่งตำรวจสอบสวนกลาง เผย ได้ดำเนินการติดตามจับกุมตัวนายสหชัยฯ หรือโจ้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างสุดความสามารถแล้ว ส่วนพนักงานอัยการจะมีความเห็นสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง ให้ถือเป็นอำนาจและดุลพินิจของทางพนักงานอัยการ

ประเด็นที่ 2 กรณีที่นายสหชัยฯ หรือโจ้ ได้รับการปล่อยตัวหลังจากนำตัวส่งสำนักงานอัยการจังหวัดสงขลาแล้วนั้น ให้ถือเป็นดุลยพินิจของทางพนักงานอัยการ ตำรวจไม่มีอำนาจในการควบคุมตัวผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด เนื่องจากทางตำรวจได้ทำการตรวจสอบข้อมูลไปยังหน่วยงานอื่นๆ ถึงข้อมูลหมายจับค้างเก่าของผู้กระทำความผิด พบว่าไม่มีหมายจับค้างเก่าในคดีอื่นๆ

ประเด็นที่ 3 สำหรับเหตุที่ไม่ส่งตัวนายสหชัยฯ หรือโจ้ ไปยังศาลปัตตานีนั้น เนื่องจากตำรวจได้ทำการตรวจสอบในสารบบแล้ว พบว่า นายสหชัยฯ หรือโจ้ มีหมายจับของศาลจังหวัดสงขลาเพียงหมายจับเดียว ไม่พบหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี จึงไม่สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดส่งไปยังศาลจังหวัดปัตตานีได้

แม้ว่าภายหลังทางสำนักงานอัยการจังหวัดสงขลา จะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในคดีนี้ก็ตาม แต่ยังต้องรอความเห็นจาก ผบ.ตร. ว่าเห็นพ้องหรือเห็นแย้งในกรณีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องด้วยหรือไม่

โดยตำรวจสอบสวนกลาง เผยอีกว่า ยังคงให้ความสำคัญสำหรับการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ยึดหลักความถูกต้อง ยุติธรรม ตรงไปตรงมา ไม่มีการช่วยเหลือผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด