จากกรณีเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 64 เวลา 17.30 น. ศรชล.ภาค 2 ได้รับแจ้งว่า พบเห็น เรือประมงเวียดนาม ประเภทคราดปลิงทะเล จำนวน 6 ลำ กำลังทำการประมง โดยห่างจาก แหลมตาชี จ.ปัตตานี ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 120 กม. พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผอ.ศรชล.ภาค 2 และ ผบ.ทรภ.2 จึงสั่งการให้ ร.ล.คีรีรัฐ จับกุม ซึ่งจอดรับสถานการณ์อยู่ที่ท่าเทียบเรือ ฐานทัพเรือสงขลา ออกเรือไปลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบ
กระทั่งเมื่อ วันที่ 20 มิ.ย. 64 ศรชล.ภาค 2 ได้ตรวจพบ เรือประมงเวียดนาม จำนวน 2 ลำ เป็นเรือคราดปลิงทะเล กำลังทำการประมง ห่างจากปากแม่น้ำบางนรา ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 52.2 กม. จึงได้ทำการตรวจค้น และจับกุม ลูกเรือประมงเวียดนาม ได้ 10 คน (รวมไต๋เรือ) และควบคุมเรือประมงทั้ง 2 ลำ มายังท่าเทียบเรือประมงนราธิวาส เพื่อดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ต้องหา ให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยก่อนการดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม และส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส เจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขอำเภอเมืองนราธิวาส ได้มาดำเนินการตรวจคัดลูกเรือ โดยทำการซักประวัติเพื่อประเมินความเสี่ยง และตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ตามขั้นตอนมาตรฐานของกรมควบคุมโรค เพื่อป้องกันไวรัสโควิด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ได้แจ้งข้อหา เรือประมงเวียดนามทั้ง 2 ลำ ดังนี้
1. ผิด พ.ร.ก.ประมง พ.ศ. 2558 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
1.1 ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์ โดยไม่มีใบอนุญาตทำการประมง ( ม.36 ประกอบ ม.129)
1.2 ร่วมกันทำการประมงโดยใช้เรือโดยไม่มีใบอนุญาตทำการประมง หรือไม่มีใบอนุญาตให้ใช้เครื่องมือทำการประมง อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง (ม.114(2) ประกอบ ม.169)
2. ผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิการประมง ในเขตการประมงไทย พุทธศักราช 2482 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
2.1 เป็นคนต่างด้าวร่วมกันทำหน้าที่เป็นลูกเรือประมงโดยไม่ได้รับอนุญาต (ม.5 ทวิ ประกอบ ม.11 ทวิ)
2.2 ร่วมกันทำการประมงโดยใช้เรือ ในเขตการประมงไทย ไม่มีใบอนุญาตสำหรับทำการประมงในขณะทำการประมง (ม. ประกอบ ม.12)