เหยื่อ คอลเซ็นเตอร์ DHL ยื่นหนังสือ วอนตำรวจเร่งตามคดี

เหยื่อ คอลเซ็นเตอร์ DHL รวมตัว ยื่นหนังสือ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วอนตำรวจเร่งตามคดี ความเสียหายรวมกว่า 30 ล้าน

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาละวาดหนัก 3 เดือน มีผู้เสียหายสูญเงินกว่า 30 ล้าน!

วันนี้ (7 ม.ค. 65) ผู้เสียหาย ที่ตกเป็นเหยื่อ “แก็งคอลเซ็นเตอร์” อ้างชื่อเป็น พนักงานบริษัทขนส่ง “DHL” รวมตัวกัน ยื่นหนังสือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตำรวจเร่งดำเนินการ เดินเรื่องจับกุมผู้กระทำความผิด โดยมี นายยศวินทร์ เพียรพิทักษ์ เป็นแกนนำ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยตกเป็นเหยื่อ สูญเงินไปกว่า 2 ล้านบาท

ผู้เสียหายเล่าให้อีจันฟังว่า หลังตนรู้ว่าโดนหลอกแล้ว จึงไลฟ์สดเพื่อเตือนคนอื่น ทำให้เกิดการสร้างกลุ่มไลน์ผู้เสียหาย ที่โดนหลอกเงินจาก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างชื่อ DHL รวบรวมรายชื่อผู้เสียหายได้ 84 ราย สูญเงินรวมกว่า 30 ล้าน!

จากนั้น ตนจึงติดต่อธนาคารให้ระงับการโอน-ถอนเงิน แต่ก็สูญเงินไปเกือบ 3 ล้านบาทแล้ว ตนเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจใกล้บ้าน แต่คดีไม่คืบหน้า จึงเดินเรื่องไปยัง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ

แต่เนื่องจาก ยอดเงินของตนไม่ถึง 10 ล้าน ทางตำรวจจึงให้รวบรวมผู้เสียหายรายอื่นให้ได้ประมาณ 10 คน หรือยอดเงินรวมให้ได้ประมาณ 10 ล้านบาท ถึงจะยื่นหนังสือได้

จากที่อีจันได้คุยกับผู้เสียหาย รูปแบบการหลอกลวง โดยส่วนใหญ่จะอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของ บริษัทขนส่ง DHL

โดยวิธีที่ใช้ลวงนั้น ก็จะมี

1. โทรมาหาเราด้วยระบบอัตโนมัติ อ้างพัสดุถูกตีกลับ พัสดุติดศุลกากร พัสดุผิดกฎหมาย ตอนนี้กงศุลกากรยึดไว้ตรวจสอบ ต้องจ่ายเงินเพื่อเคลียร์คดี

2. โทรอ้างว่า เราเป็นผู้โชคดี ได้รับรางวัลหรือเงินสด แต่ของรางวัลเหล่านี้ อยู่ต่างประเทศ ต้องจ่ายภาษีและค่าขนส่ง

หากเราหลงเชื่อ ก็จะหลอกถามข้อมูลส่วนตัว ทั้งชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน ที่อยู่ หรือแม้แต่การแนะนำให้เราแจ้งความในเบื้องต้น หากเราไม่ได้เป็นผู้ส่งสินค้าดังกล่าว เราโดนแอบอ้าง ฟังดูเหมือนหวังดี โดยบอกว่า เราไม่ต้องเดินทางไปแจ้งที่สถานีตำรวจ จะทำการโอนสายหาตำรวจเพื่อแจ้งความให้ บางกรณีให้แอดไลน์เพื่อขอข้อมูลส่วนตัว และทำการโอนเงินอื่นๆ

เบื่องต้น หลังการยื่นหนังสือเรียกร้องให้ตำรวจเร่งดำเนินการ พบว่าส่วนใหญ่ ทาง สน.ท้องที่ ที่ผู้เสียหายไปแจ้งความ ไม่มีการดำเนินเรื่องต่อไปยังหน่วยงานอื่น ทำให้คดีไม่มีความคืบหน้า และจะเร่งตรวจสอบไปยัง สน.ท้องที่ดังกล่าว เพื่อเร่งดำเนินการให้ผู้เสียหายต่อไป

ใครที่เผลอตกเป็นเหยื่อไปแล้ว ให้เร่งดำเนินการดังนี้

1. ให้รวบรวมหลักฐาน คิดต่อสถาบันการเงิน ให้ระงับการโอน/ถอน

2. แจ้งความลงบันทึกประจำวันในเขตอำนาจ หรือพื้นที่ที่เราอยู่

ซึ่งจากกรณีนี้ ทางบริษัท ขนส่ง DHL เคยออกประกาศแล้ว ว่าทางบริษัท ไม่มีนโยบายติดต่อหาลูกค้าทางโทรศัพท์ หรือในรูปแบบข้อความอัตโนมัติ

และได้แนะนำว่า หากได้รับสาย โดยปลายสายแอบอ้างชื่อ DHL ให้ลูกค้าวางสายทันที

มิจฉาชีพในปัจจุบัน มีหลากหลายรูปแบบจริงๆค่ะ อย่าหลงเชื่อใจใครง่ายๆ และที่สำคัญ การโอนสายแจ้งความทางโทรศัพท์ ตามกฎหมายแล้วไม่สามารถทำได้นะคะ

คลิปอีจันแนะนำ
แม่พลิกลิ้น! สารภาพตีสายฟ้า ดับเพราะแค้นผัวเก่า