โจรกางเกงในสิ้นลาย! ก่อเหตุทั่วไทย สุดท้ายหนีไม่รอด

ตำรวจสืบภาค 2 และ PCT 5 รวบ “คาร์มัส สุไหงโกลก” ปิดตำนานโจรกางเกงใน ก่อเหตุลักทรัพย์ร้าน BANANA ทั่วไทย

สิ้นลาย โจรกางเกงใน หลังก่อเหตุขโมยทรัพย์สินในบ้านประชาชนหลายพื้นที่ทั่วไทย โดยอำพรางตัวด้วยการใส่กางเกงในแค่ตัวเดียว แล้ใช้เสื้อมาคลุมหัวปิดบังใบหน้าในระหว่างก่อเหตุ

โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบภาค 2 ได้รับแจ้งว่าเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2565 เวลาประมาณ 03.00 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ในร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ “BANANA” สาขานครนายก อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก ได้ทรัพย์สินไปกว่า 128 รายการ มูลค่าความเสียหายกว่า 1,914,895 บาท โดยคนร้ายเลือกที่จะลักมือถือบางยี่ห้อ แต่จะเหลือทิ้งไว้เฉพาะเครื่องที่สามารถล็อกซิมได้ แสดงถึงความเชี่ยวชาญเรื่องโทรศัพท์ หลังเกิดเหตุ บก.สส.ภ.2 ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนพบว่าคนร้ายแต่งกายโดยถอดเสื้อผ้าจนเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียวในการก่อเหตุ และมีการตัดสายกล้องวงจรปิดและถอดเซิฟเวอร์กล้องลักเอาไปด้วย

ต่อมา บก.สส.ภ.2 ได้สืบทราบว่าคนร้ายคือ นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส อายุ 23 ปี เป็นชาวจังหวัดนราธิวาส ซึ่งนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมจาก ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 ยังได้วิเคราะห์แผนประทุษกรรมของคนร้ายในคดีนี้ ที่มีความคล้ายกับคดีลักทรัพย์ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 65 ที่ร้าน BANANA ในสายไหม กทม. และเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 65 ที่ร้าน BANANA พื้นที่ จ.ยะลา

กระทั่งเมื่อวานนี้(4 ก.ค. 65) หลังเกิดเหตุ 1 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 และ ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 ได้จับกุมตัว นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ หรือรับของโจร โดยจับกุมตัวได้ที่ห้องพัก ชั้น 7 คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านลาดพร้าว ถนนเสรีไทย แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพ พร้อมด้วยของกลาง คือ

1. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 31 เครื่อง ตรวจค้นพบห้องพัก สถานที่เดียวกับที่จับกุมตัวได้

2. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 58 เครื่อง ตรวจค้นพบห้องพักในโรงแรม ย่าน ซ.รามคำแหง 40 ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพ

จากการสอบสวนนายคาร์มัส ให้การรับสารภาพและยอมรับว่า เป็นลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ “BANANA” สาขานครนายกจริง จนกระทั่งได้หลบหนีมาอยู่คอนโดย่านลาดพร้าว และเปิดห้องพักโรงแรมย่านรามคำแหง เพื่อซ่อนโทรศัพท์ที่ขโมยมา และเตรียมพร้อมหอบของกลางโทรศัพท์ที่ขโมยมาหลายร้อยเครื่องกลับไปยังภูมิลำเนา จ.นราธิวาส แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 และ ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 ได้บุกเข้าตรวจค้นและจับกุมตัวได้ก่อน

จากนั้นนายคาร์มัส ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นห้องพัก ที่โรงแรมย่าน ซ.รามคำแหง 40 ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ตรวจยึดของกลางได้อีก 70 รายการ เป็นโทรศัพท์มือถือที่ก่อเหตุขโมยจำนวน 58 เครื่อง โดยการลงทะเบียนเปิดห้องโรงแรม นายคาร์มัสใช้บัตรประชาชนของเพื่อนเพื่อหลบเลี่ยงการติดตามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการตรวจค้นทั้ง 2 จุดรวมกลางได้ทั้งสิ้น 149 รายการ เป็นโทรศัพท์มือถือที่ก่อเหตุขโมยมาทั้งสิ้น จำนวน 89 เครื่อง

ซึ่งนายคาร์มัส เป็นบุคคลตามหมายจับ จำนวน 4 หมายจับดังนี้

1. หมายจับศาลจังหวัดยะลาที่ จ.54/2564 ลงวันที่ 4 ก.พ. 64 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้าหรือรับของโจร

2. หมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.48/2565 ลงวันที่ 20 ม.ค. 65 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือรับของโจร

3. หมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลางจังหวัดสงขลาที่ 8/2564 ลงวันที่ 27 พ.ค. 64 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า

4. หมายจับศาลจังหวัดพัทลุงที่ 129/2564 ลงวันที่ 23 เม.ย. 64 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า

โดย นายคาร์มัส รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และให้การอ้างว่า ที่ขโมยแต่ร้าน BANANA เพราะชอบกล้วยและชอบสีเหลืองจึงขโมยแต่ร้านนี้ และที่ชอบถอดเสื้อผ้าให้เหลือกางเกงในตัวเดียวแล้วเข้าไปขโมยของ เพราะรู้สึกมั่นใจ รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง และที่ขโมยกล้องวงจรปิดไปด้วยเพราะเมื่อปี 2564 ถูกตีข่าวว่าที่จังหวัดยะลาเป็นโจรกางเกงในโรคจิต รู้สึกไม่ชอบจึงขโมยกล้องไปด้วยทุกครั้งหลังก่อเหตุ ส่วนเป้าหมายในการจะก่อเหตุ จะค้น google map หาร้าน BANANA แบบสุ่ม แล้วจะไปละแวกนั้นก่อนก่อเหตุประมาณ 3 ชั่งโมงถึง 6 ชั่วโมง เพื่อสำรวจเส้นทางรอบๆ แล้วลงมือก่อเหตุหลังเที่ยงคืน โดยที่มุ่งขโมยแต่โทรศัพท์เพราะฝังใจตอนเด็กๆที่เพื่อนมีโทรศัพท์แต่ตนเองไม่มี จึงเริ่มก่อเหตุโดยแรกๆก็ลักขโมยเล็กน้อยจนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆจนแทบกวาดหมดร้าน เมื่อขโมยมาได้แล้วมักเอาบางส่วนไปขายและเอาเงินไปใช้ และจะนำโทรศัพท์บางส่วนไปแจกให้กับคนเร่ร่อนละแวกสนามหลวงและหัวลำโพง บางส่วนก็จะนำไปแจกให้กับคนที่ภูมิลำเนาที่ จ.นราธิวาส โดยจะแจกทั้งเงินและโทรศัพท์ เนื่องจากตนเองเป็นคนไร้บ้านมาก่อน จึงทำในลักษณะของจอมโจรโรบินฮูด แต่สื่อกลับตั้งฉายาว่าโจรกางเกงในโรคจิต

จากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการขยายผลการจับกุมโดยละเอียด ก่อนนำตัวนายคาร์มัสส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก ดำเนินคดีตามกฎหมาย