ใครจะไปรู้ว่าชีวิตจะมาเจอวิกฤต ที่ทำให้เราเเทบยืนไม่ไหว เราไม่เคยคิด พอมาเจอก็คิดว่าจะอยู่ไม่นาน เดี๋ยวมันก็ไป เเต่ความจริงเเล้วมันไม่เป็นแบบนั้น
นี่คือความในใจของไกด์สาวคนเก่ง คุณเก๋น.ส.จิราพร พลศิริ เธอทำงานอยู่กับการดูเเลลูกทัวร์ การท่องเที่ยวไปประเทศต่างๆ หน้าที่ของเธอเเม้มันจะเหนื่อย เเต่เธอมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำมัน เธอสนุกเเละตั้งใจจะทำมันต่อไปเรื่อย เเต่ทุกอย่างต้องมาสะดุด เพราะโควิด-19
ประมาณปลายปี 2562 ประเทศจีนพบการโรคระบาด โควิด-19 ตอนนั้นทุกคนยังไม่ค่อยตื่นตระหนกสักเท่าไหร่ เพราะมันยังไม่ระบาดหนัก เเต่พอต้นมี 2563 ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยน เเน่นอนเมื่อโรคระบาด หลายๆประเทศปิด ห้ามให้ท่องเที่ยว เเละเดินทางเข้าออก ธุรกิจท่องโดนเต็ม เเน่นอนไกด์เเละผู้นำเที่ยวตกอยู่ในสถานะไม่มีงาน
คุณเก๋เล่าว่า โควิดเริ่มกระทบงานจริงๆ ประมาณเดือน มีนาคม 2563 ตอนนั้นเธอไม่ได้ตระหนกอะไรมาก คิดว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป มันคงอยู่กับเราไม่นาน ระหว่างนั้นเธอว่างงาน เพราะเที่ยวทั้งต่างประเทศเเละในประเทศไม่ได้ ระหว่างนั้นเธอก็อยู่บ้าน ช่วยที่บ้านทำธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ เเละเธอก็ไม่ได้ลำบากอะไร เพราะเธอยังพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง
เต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด เวลาล่วงเลยมากว่าครึ่งปีสถานการณ์โควิด ไม่มีวี่เเววว่าจะดีขึ้น เงินเก็บก็เริ่มหมด เธอต้องหาอาชีพเสริมเพื่อหารายได้มาดำเนินชีวิต ขายเเซนวิชโบราณ นำความชอบมาเป็นอาชีพ เริ่มรับออร์เดอร์จากคนในหมู่บ้าน เเต่ทีกอย่างก็ไม่ราบรื่นเสมอไป พอนานๆลูกค้าก็เริ่มเบื่อ คุณเก๋ก็ต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
พอมาโควิดระลอก2 มาอีกยิ่งทำให้เธอต้องคิดหนัก คิดถึงอนาคต คิดถึงงานที่รัก เพราะยังไม่มีวี่เเววว่าสถานการณ์จะดีขึ้นตอนไหน
“เราไม่คิดว่าโควิดมันจะกระทบชีวิตเรานานขนาดนี้ เราคิดว่ามันมาเดี๋ยวมันก็ไป เเต่ตอนนี้มันไม่ใช่เเล้ว เงินเก็บที่เราคิดว่ามันพอ มันไม่พอ มันเลยทำให้เรารู้ว่า เราไม่ควรประมาทกับการใช้ชีวิต”
นี่คือความจริงที่คุณเก๋บอกจัน เเละเป็นความจริงที่ทุกคนต้องเผชิญ โควิดนอกจากจะทำให้เราบอบช้ำ มันยังทำให้เรารู้ว่า ชีวิตต้องวางเเผน เราจะทำอะไรสนุกไปวันๆไม่ได้เเล้ว
เธอจึงพูดได้เต็มปากว่า โควิดมันเปลี่ยนชีวิต เเละเปลี่ยนการดำเนินชีวิตต่อไปจริงๆ