กลางคืนนอนก็ไม่ค่อยหลับสนิท มีเสียงอะไรนิดหน่อยก็กลัวไปหมด ข้าวที่เก็บไว้ก็ไม่เหลือกิน อ้อยก็ไม่ได้ขาย เป็นแบบนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว”
เสียงสะท้อนจาก ยายเพชร ไชยราษฎร์ อายุ 79 ปี ชาวบ้านใน ต.ท่าวังช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่ตอนนี้กำลังได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะช้างป่าจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน บุกเข้าถล่มบ้านเรือนและที่นา ไร่อ้อย จนเก็บอ้อยขายไม่ได้ เช่นเดียวกับอีกหลายๆครัวเรือน ที่ได้รับผลกระทบแบบเดียวกัน
ยายเพชร เล่าว่า บ้านหลังนี้ยายอยู่มาตั้งแต่ พ.ศ.2516 ผ่านมาเป็น 40 ปี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องช้างป่า แต่พอมา 10 ปีหลัง เริ่มมีช้างป่า คาดว่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อ่างฤาไน เข้ามาในหากินพื้นที่แถวๆบ้าน แต่ก็ไม่กระทบการใช้ชีวิตเท่าไหร่นัก
จนมาถึง 3 ปีหลังนี้ ช้างป่าเข้ามาเยอะมากขึ้น จากที่เคยมาหลักสิบตัว ล่าสุดปีนี้ เข้ามาถึงหลัก 200 ตัว ทำลายข้าว ทำลายไร่อ้อย ทั้งของยายเอง ของลูกชายยายที่อยู่ติดกัน ผลิตผลเสียหาย ขาดทุนย่อยยับ
ส่วนตัวยายเพชรเอง ก็ยอมรับว่ากลัว เขตรั้วลวดหนามที่กั้นไว้ก็พังยับเยิน ช้างป่าเป็นสิบตัว เดินเข้าออกเขตบ้าน ไม่สนความเสียหายใดๆ เมื่อร้องเรียนไปทาง อบต.ท่าวังช้าง ก็ไม่มีความช่วยเหลือใดๆลงมาถึง
ล่าสุดเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ช้างป่าก็เข้ามาทำลายยุ้งข้าวที่บ้านยายอีก ยายเองก็ไม่รู้จะต่อสู้อย่างไร จะย้ายออกจากบ้านก็ไม่ได้ ทั้งชีวิตยายอยู่ที่นี่ ทั้งบ้าน ทั้งที่ทำกิน ไม่มีวิธีแก้ไขอย่างอื่นนอกจากทำใจอยู่ต่อ แม้ว่าจะต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ทุกคืน เพราะไม่รู้ว่า ช้างป่าจะเข้ามาในบ้านยายตอนไหน
ยายเพชรบอกว่า ถ้าไม่มีช้างป่าเหล่านี้เข้ามาในบ้าน ชีวิตของแกก็คงจะดีขึ้น จึงขอให้ทางภาครัฐ ช่วยผลักดันให้ช้างป่ากลับสู่ป่าเสียที และให้ไม่กลับออกมาอีก ยายจะได้นอนหลับได้เต็มตาเสียที
อีจันเอาใจช่วยทั้งยายทั้งเจ้าหน้าที่นะครับ การผลักดันช้างป่าเหล่านี้กลับสู่ป่า ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายๆหน่วยงาน รวมทั้งชาวบ้านด้วย ก็ขอให้ร่วมมือกันนะครับ ปัญหาเหล่านี้จะได้หมดไป
คลิปอีจันแนะนำ
อ.เฉลิมชัย อัดคลิปเดือด ฝากถึงไกด์พาเที่ยว อย่าทำแบบนี้ “กูโคตรอาย”