แจ้งจับ 2 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ข้อหาหนัก ร่วมขบวนการขโมยไม้พะยูงของกลาง

พยัคฆ์ไพร จัดหนัก! แจ้งจับ 2 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ มีส่วนร่วมขบวนการขโมยไม้พะยูงของกลางในหน่วยป้องกันฯ จ.ยโสธร

จากกรณีไม้ของกลางของหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยส.2 (โพนงาม-ดงปอ) หมู่ที่ 3 ตำบลน้ำสร้าง อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร สูญหายตามที่ลงบันทึกประจำวัน ข้อที่ 1 ลงวันที่ 22 กันยายน 2562 เวลา 11.46 น.

ตามนโยบายข้อสั่งการของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้มอบนโยบายการปฏิบัติงานเพื่อป้องกัน การลักลอบขโมยไม้พะยูงของกลางที่เก็บรักษาไว้ตามหน่วยป้องกันรักษาป่า ให้ชุดปฏิบัติการเร่งรัดติดตามกลุ่มผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ และให้เพิ่มมาตรการป้องกันดูแลไม้พะยูงของกลางที่เก็บรักษาไว้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดย นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ , ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) สั่งการให้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ , รองผู้อำนวยการศูนย์ ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) เร่งรัดให้ขยายผล ตรวจสอบข้อเท็จจริง และติดตามดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดมาลงโทษตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ได้ ตั้งแต่ช่วงวันที่ 27 ก.ย. – 1 ต.ค. 2562

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สปฟ.กปม., พ.ต.ท.อรรถพล สุตสาย,รอง.ผกก3.บก.ปทส.,พ.ต.ท.รุ่งนิรันดร์ ทองเกษมสกุล ผกก.สภ.ลำผักกูด อ.กุดชุม จ.ยโสธร และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ,นายประทวน สุระมุล หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยส. 2 (โพนงาม-ดงปอ) นายนิธิโรจน์ จงจิตรกิตติ์ธนา เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ประจำชุดเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) พร้อม เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ได้เข้าขยายผลตรวจสอบกรณีไม้ของกลางในคดีอาญา สูญหายตามปจว.ข้อที่ 1 ลงวันที่ 22 กันยายน 2562 เวลา 11.46 น. สถานีตารวจภูธรตำบลลำผักกูด ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยส.2 ตำบลน้ำสร้าง อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร โดยละเอียด

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

พบว่าไม้พะยูงของกลางในคดีได้สูญหาย รวมไม้พะยูงของกลางในคดีสูญหาย จานวน 33 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 2.90 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าความเสียหายภาครัฐ 1,160,000 บาท คำนวณโดยหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยส. 2 (โพนงาม-ดงปอ)

คณะเจ้าหน้าที่ ได้ใช้เวลาขยายผลสืบสวนสอบสวนจนทราบถึงกลุ่มขบวนการลักลอบไม้ของกลางของหน่วย โดยมีข้อมูลชัดเจนว่า มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยป้องกันรักษาป่า (ยส.2) มีส่วนรู้เห็นและเกี่ยวข้องด้วย ประกอบด้วย นายสุระศักดิ์ ชื่นตา ตำแหน่งผู้ช่วยพนักงานพิทักษ์ป่า(พร.) และนายสุพัฒน์ แก้วอ่อน ตำแหน่งผู้ช่วยพนักงานพิทักษ์ป่า (พร.) โดยพฤติกรรมมีการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้ง แต่ 2,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบัง ทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางจำคุก ตั้งแต่ 5 – 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000 – 400,000 บาท

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

คณะเจ้าหน้าที่จึงลงความเห็นร่วมกันบันทึกเรื่องราวดังกล่าวเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจตำบลลำผักกูด เพื่อดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายต่อไป
และจะเสนอให้หน่วยต้นสังกัดๆพิจารณาดำเนินการโทษทางวินัย ตามระเบียบพร้อมกัน

โดยพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นายที่ได้รับคำสั่งภารกิจ เข้าเวรยามพร้อมกันในวันเวลาดังกล่าวโดยทางหน่วยงานๆได้มีการวางระบบการรายงานสถานการณ์แต่ช่วงเวลา โดยให้รายงานเข้าทางไลน์กลุ่มเวรยาม ของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (สาขาอุบลราชธานี) โดยการรายงานจะแจ้งสถานการณ์และมีภาพประกอบ แต่จากการตรวจสอบพบข้อมูลชัดเจนว่า ไม้พะยูงของกลางหายไปช่วง ตั้งแต่เวลา 00.30-03.00 น ของวันที่ 21 กันยายน 2562 เป็นช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นายปฏิบัติงานเวรยาม แต่จากการตรวจสอบการายงานพบว่า ทั้งสองได้เตรียมถ่ายภาพ ที่มีรูปกองไม้ที่หายไปและรูปของทั้ง 2 นาย โดนถ่ายเก็บไว้หลายๆภาพ และนำมาประกอบการรายงานช่วงที่คาดว่าไม้หายตั้งแต่ 00.30, 02.06,04.00,และ06.00น ต่อเนื่องกันถึง 4 ครั้งติดต่อกัน โดยรายงานว่าสถานการณ์ปกติ ทั้งที่ขณะนั้นสถานการณ์ไม่ปกติ

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

โดยมีพยานบุคคลที่เชื่อถือได้หลายปากให้การตรงกันว่า พบเห็นรถยนต์ปิคอัพ ต้องสงสัยวิ่งเข้ามาในหน่วยพร้อมกลุ่มผู้ชายหลายคนช่วยกันขนไม้พะยูงของกลาง ได้ยินเสียงชัดว่ามีการขนไม้ออกจากหน่วยช่วงเวลา 00.30-03.00 น โดยพยานให้การว่ามีการเปิดเพลงเสียงดัง จนทำให้เข้าใจว่ามีงานเลี้ยง หรือมีการไปตรวจยึดจับไม้มาด้วยซ้ำ แต่เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นายให้การยืนยันว่าไม่ได้ยินอะไรและอ้างว่าหลับไป แต่คณะเจ้าหน้าที่ขยายผลตรวจสอบข้อมูลพบว่า เป็นการวางแผนการมาเป็นอย่างดี เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มขบวนการเข้าลักลอบขโมยไม้พะยูงของกลาง

และชุดปฏิบัติการทำงานยังคงเกาะติด กลุ่มขบวนการที่เป็นบุคคลภายนอกอยู่ โดยมีข้อมูลว่าไม้ของกลางดังกล่าวยังคงถูกกลุ่มขบวนการเก็บซุกซ่อนอยู่ในท้องที่ใกล้เคียงกัน และคณะเจ้าหน้าที่กำลังขยายผลต่อกลุ่มขบวนการให้ถึงที่สุดต่อไป สำหรับการขยายผลแจ้งความดำเนินคดีด้วยข้อหาหนัก เพื่อเป็นการป้องปรามการดูแลรักษาไม้ของกลางให้มีประสิทธิภาพ และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นๆของกรมป่าไม้