วันนี้ 22 ต.ค. 2562 ตำรวจกองปราบปรามร่วมกับตำรวจกาฬสินธุ์สนธิกำลัง สกัดจับต้องหาคดีผู้ต้องหามีหมายจับ คดีพยายามฆ่า หนี มา 16 ปี ใกล้หมดอายุความ คาบนทางด่วนพระราม 2 ตำรวจใช้รถปิดหัวท้ายสกัดจับถึงได้ตัวเพราะผู้ต้องรู้ตัวและขับรถหลบหนีการจับกุม
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้ต้องหาได้พยายามฆ่า นายสมทบ ธรรมศิริ โดยใช้อาวุธปืนยิง หลังเกิดเหตุต้องหาได้หลบหนีไป เหตุเกิดที่วัดบ้านกุดจิก ต.กุดจิก อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ โดยนางสา ธรรมศิริ ให้การว่าในคืนวันที่เกิดเหตุมีการแสดงหมอลำที่อยู่ที่วัดบ้านกุดจิก ตนดูการแสดงหมอลำที่วัด ขณะที่กำลังนั่งดูหมอลำอยู่นั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด อยู่บริเวณงานจึงลุกขึ้นไปดูกับทราบว่านายสมทบ ธรรมศิริ ลูกชายถูกยิงซึ่งผู้ต้องหาเป็นคนใช้อาวุธปืนยิง แต่นางสาไม่เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ
ภาพจากอีจัน
ขณะที่นายสมทบได้เข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล นางสาจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่าว่าคดีจะถึงที่สุด
นายสมทบ ธรรมศิริ ผู้เสียหาย ให้การว่าในคืนเกิดเหตุผู้เสียหายได้ไปดูการแสดงหมอลำอยู่ที่วัด ขณะที่ดูหมอลำอยู่นั้น เพื่อนของผู้เสียหายถูกนายหมี้ ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล ทำร้ายตนกับพวกจึงได้ตามหานายหมี้ พบนายหมี้กับพวกนั่งดื่มสุราอยู่
ภาพจากอีจัน
นายสมทบ จึงได้ไปพูดคุยกับนายหมี้แต่ตกลงกันไม่ได้จึงเกิดทะเลาะและทำร้ายร่างกายขึ้น ขณะนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ตนจึงหันหน้าไปดู เห็นผู้ต้องหาวิ่งหนีออกไปและถือปืนสั้นไปด้วยผู้เสียหายจึงวิ่งตามผู้ต้องหาแต่ได้ล้มลงหมดสติไปก่อน รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่ออยู่โรงพยาบาลจึงทราบว่าตนเองถูกยิง ปืนที่ผู้ต้องหายิงผู้เสียนายนั้นไม่ทราบว่าเป็นปืนอะไร ทราบแต่เพียงว่าเป็นปืนสั้น ผู้เสียหายถูกยิงเข้าหนึ่งนัดกระสุนถูกแขนข้างซ้ายเหนือข้อศอก กระสุนทะลุเข้าลำตัวด้านข้าง มีรอยกระสุนเข้า 5 รอยกระสุนฝังใน ซึ่งขณะยิงนั้นผู้ต้องหาอยู่ห่างจากผู้เสียหายประมาณ 3 เมตร ในคืนเกิดเหตุผู้เสียหายดื่มสุราและมีอาการเมาสุรา
อีกทั้งนายธีระยุทธ์ วงศ์ไชยา พยาน ให้การในคืนเกิดเหตุว่าตนได้ไปดูหมอลำอยู่ที่วัด และดื่มสุรากับเพื่อนหลายคน ตนและนายสมทบได้เดินออกมาซื้อสุราที่แผงร้านค้ารอบๆ บริเวณงาน ขณะที่กำลังเดินออกมานั้นเห็นผู้ต้องหานั่งดื่มสุราอยู่กับเพื่อนประมาณ 10 คน จึงเข้าไปนั่งดื่มสุราด้วยกับกลุ่มของผู้ต้องหา นานประมาณ 3 นาที เกิดมีปากเสียงกัน จนผู้ต้องหาได้ชักอาวุธปืนสั้นที่เหน็บไว้ที่เอวออกมายิงนายสมทบ 1 นัดแล้ววิ่งหลบหนีไป ส่วนตนและนายสมทบพยายามวิ่งไล่ตามแต่ล้มลง และพวกของผู้ต้องหาจะเข้ามาทำร้าย ก่อนที่ตำรวจที่ไปรักษาความสงบเรียบร้อยภายในงานเข้ามาช่วยเหลือ แล้วนำผู้เสียหายส่งโรงพยาบาล
ภาพจากอีจัน
ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารพาตลอดข้อกล่าวหาให้การว่าแค้นแทนพี่ชายซึ่งผู้ชายได้มีเรื่องชกต่อยกับผู้กล่าวในงานวัดก่อนหน้านั้นเลยใช้อาวุธปืนยิงเพื่อสางแค้นให้พี่ชาย
หลังก่อเหตุได้หลบหนีเข้ามาทำงานที่กรุงเทพกับครอบครัวและระมัดระวังตัวจากตำรวจตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ถูกจับกุมแต่วันนี้สังเกตเห็นมีรถแปลกๆมาจอดใกล้ๆบ้าน ตนเห็นคิดว่าน่าจะใช่ตำรวจ จึงพยายามขับรถหลบหนีขึ้นทางด่วน จนถูกตำรวจกองปราบและตำรวจกาฬสินธุ์ปิดล้อมจับกุมได้ในที่สุด จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าคันโท กาฬสินธุ์เพื่อดำเนินคดีต่อไป