เบาะแสใหม่คดีวรรณี พยานบอกมีคนอ้างเป็นหลานชาย บอกผู้ตายไปอินเดีย

คดีฆ่าเศรษฐีนีนักบุญ พยานเผยวันพบศพ โทร.เข้าเบอร์ผู้ตาย มีชายอ้างเป็นหลานบอกผู้ตายไปอินเดีย

คดีสะเทือนขวัญฆ่านางสาววรรณี จิรเจริญยิ่ง อายุ 58 ปี เศรษฐินีสายบุญ ลูกศิษย์วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร จ.เชียงใหม่ โดยซ่อนศพไว้ในตู้เย็นภายในทาวน์โฮมหน้าวัด ขณะที่ชุดสืบสวนได้เบาะแสสำคัญหลายอย่างและคาดว่าจะจับกุมคนร้ายได้ในเร็ว ๆ นี้

ภาพจากอีจัน

ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (28 ตุลาคม 2562) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยเปิดประตูเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน โดยชั้นล่างที่เป็นห้องรับแขก พบว่ากล้องวงจรปิดถูกถอดการ์ดออกไป และ ตรวจสอบภายในห้องนอนชั้นที่สองและชั้นที่สาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยข้อมูล แต่บอกว่าพบลายนิ้วมือจำนวนมากทั่วตู้เย็นที่ซ่อนศพ และบริเวณใกล้เคียง ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ภาพจากอีจัน

ขณะที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พบข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา คนร้ายได้ขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู สีขาว ทะเบียน 9 กจ 3769 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ จากนั้นได้ขับรถไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มอีกแห่งหนึ่งที่ จ.ลำปาง ก่อนขับกลับเข้ามาที่ จ.เชียงใหม่ ตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มหลายแห่ง โดยบัญชีแรกไปทั้งหมด 1.2 ล้านบาท

ภาพจากอีจัน

ล่าสุดเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันนี้ (28 ตุลาคม 2562) พบคนร้าย ไปกดเงินของผู้ตายอีกบัญชีหนึ่งที่ตู้เอทีเอ็มใน จ.ระยอง อีกหลายหมื่นบาท ซึ่งบัญชีนี้พบว่า มีเงินในบัญชีทั้งหมด 40 ล้านบาท โดยคนร้ายพยายามปิดบังใบหน้าและหลบกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ที่ตู้เอทีเอ็ม ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวอยู่ รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางที่รถขับผ่าน ขณะที่เดียวกันมีรายงานว่าตำรวจพบผู้ต้องสงสัยที่อาจร่วมกันวางแผนก่อเหตุในครั้งนี้แล้วและอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล

ภาพจากอีจัน

ด้าน นายพงศกร เรือนแก้ว พนักงานดับเพลิง เทศบาลตำบลจอมทอง อ.จอมทอง ที่ได้เข้าตรวจสอบบ้านของผู้ตาย หลังได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านว่ามีกลิ่นเหม็นเน่าผิดปกติและมีคราบเลือดและน้ำเหลืองไหลออกมาจากประตู นายพงศกร ได้โทรศัพท์ไปที่หมายเลขโทรศัพท์ของนางสาววรรณี ในเวลา 10.46 น. ของวันที่ 18 ต.ค. ปลายสายมีเสียงผู้ชายรับ อ้างตัวเป็นหลานนางสาววรรณี บอกว่านางสาววรรณีไม่อยู่ ไปปฏิบัติธรรมที่ประเทศอินเดีย และจะไปนานหลายสัปดาห์

ภาพจากอีจัน

เมื่อนายพงศกรได้แจ้งให้ทราบว่า ต้องการเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน ชายคนดังกล่าวบอกว่าจะเข้าไปเปิดประตูบ้านให้ในเวลา 17.00 น. แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่มีใครมา นายพงศกรโทรศัพท์ไปอีกหลายครั้ง ไม่มีคนรับและปิดเครื่องไปในที่สุด ก่อนที่จะมาพบเป็นศพเมื่อวานนี้ (27 ต.ค. 62)