เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 62 ที่ผ่านมา ยายของ เด็กชายวัย 13 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี ว่า เด็กชายโดน ชายรูปร่างอ้วนเตี้ย ผิวคล้ำ สวมเสื้อกันหนาวสีเหลือง เดินเข้ามาบีบคอขู่บังคับ ให้เดินเข้าไปในป่าละเมาะริมถนน ซ.ประชาราษฎร์ ชุมชนหนองตุ หลังวัดวิเวกบูรพาชัย ห่างจากบ้านพัก 400 เมตร ก่อนที่จะบังคับให้อมนกเขานานกว่า 30 นาที ก่อนปล่อยตัวเด็กออกมา
ซึ่งหลังจากนั้น เด็กชายวัย 13 ก็ได้เล่าเรื่องที่ตนถูกกระทำให้ยายฟัง
ภาพจากอีจัน
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (12 พ.ย.62) พ.ต.ท.วงศกร วันชัย สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้นำกำลังตำรวจสืบสวนลงพื้นที่ และขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการหอพัก แมนชั่น ที่อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุและบ้านพักของผู้เสียหาย เพื่อแกะรอยหาตำหนิรูปพรรณคนร้าย โดยมีกล้องวงจรปิดในพื้นที่จับภาพคนร้ายไว้ได้
จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดที่หอพักแห่งหนึ่ง ที่สามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ชัด ทำให้เห็นรูปพรรณคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 20-25 ปี รูปร่างอ้วนเตี้ย สวมเสื้อกันหนาวสีเหลืองแขนสีเขียว กางเกงยีนส์ขายาว ซึ่งเดินจากปากซอยบ้านพักผู้เสียหาย ผ่านหน้าหอพักดังกล่าว ไปทางปากซอยข้างโรงเรียนบ้านหนองตุ ก่อนเดินกลับไปก่อเหตุ
ซึ่งทันทีที่เด็กชายวัย 13 ปี เห็นภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิด ก็ชี้ยืนยันกับตำรวจทันที
ภาพจากอีจัน
คุณยายของเด็กชายผู้ถูกกระทำ ฝากขอบคุณผู้แลหอพักแห่งนี้และในละแวกใกล้เคียง ที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่จนเห็นใบหน้าตำหนิรูปพรรณคนร้ายที่ค่อนข้างชัดเจน และอยากให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะหากยังจับคนร้ายไม่ได้เกรงจะไปก่อเหตุกับเด็กลูกหลานคนอื่นอีก
ภาพจากอีจัน
ด้าน พ.ต.ท.วงศกร วันชัย สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากลงพื้นที่สืบสวนหาหลักฐานและพยานในชุมชน ทางตำรวจได้หลักฐานมากพอสมควร โดยเฉพาะภาพจากล้องวงจรปิดที่ได้มาจากความร่วมมือเจ้าของหอพักหลายแห่ง รวมทั้งจากการสอบสวนชาวบ้าน เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายไม่ใช่คนในชุมชน เนื่องจากไม่มีใครรู้จัก หรือเคยเห็นหน้ามาก่อน พร้อมกับประสานงานตำรวจทุกหน่วยให้เพิ่มกำลังในการออกตรวจพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายก่อเหตุซ้ำ และขอยืนยันว่าอีกไม่นานคงจับตัวคนร้ายได้อย่างแน่นอน