#ใครฆ่าสุมาลี จากคนหายกลายเป็นศพนิรนาม

“สุมาลี” เธอไม่ใช่ศพนิรนาม แต่เธอคือเหยื่อฆาตรกรรม เป็นคนหายที่ไม่ได้ถูกตามหา

เราได้รับข้อความจาก “คุณเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข” เนื้อหาราวกับนิยายสืบสวนสอบสวนแต่ …… มันคือชีวิตจริง #ใครฆ่าสุมาลี เป็นปริศนาที่สังคมอาจมีส่วนร่วมค้นหาเบาะแส

#เธอไม่ใช่ศพนิรนาม
#แต่เธอคือคนหายที่ไม่ถูกตามหา

13 พฤศจิกายน 2558 หรือวันนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ถนนหลังโรงเรียนบ้านโดท่างาม ตำบลห้วยแอ่ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ชาวบ้านพบศพหญิงไม่ทราบชื่อ ถูกทิ้งไว้ข้างทางไม่มีเอกสารติดตัว บริเวณศีรษะด้านหลังมีรอยถูกตีด้วยของแข็ง และพบเชือกจูงสุนัขสีฟ้า ผูกอยู่ที่ลำคอ สภาพศพ ขึ้นอืด แข็งตัว แพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8 ชั่วโมง

เหตุการณ์นี้เป็นข่าวใหญ่ในชุมชนเล็กๆ แต่เป็นข่าวเล็กๆ ในสังคม จนทำให้ศพของหญิงคนนี้ถูกประทับตราเป็น #ศพนิรนาม ไม่มีหลักฐานใดๆปรากฏเกี่ยวกับตัวเธอ ตามข่าวในขณะนั้น ตำรวจบอกว่าไม่มีการรับแจ้งคนหายในพื้นที่ อาจเป็นศพที่ถูกฆ่าจากที่อื่นแล้วนำมาทิ้งไว้ สุดท้ายมีเพียงสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอของเธอที่ถูกเก็บไว้ ก่อนร่างของเธอจะถูกนำไปฝังไว้ตามขั้นตอนที่สุสานของมูลนิธิเอกชนในจังหวัดขอนแก่น

ร่างของศพนิรนามนี้ ถูกฝังอยู่ในผืนดินของสุสานนานกว่า 3 ปีเศษ จนกระทั่ง สุสานที่ฝังร่างเธอและศพนิรนามอื่นๆ อีกกว่า 900 ศพ ได้ทำพิธีล้างป่าช้าในรอบ 24 ปี ไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา เธอจึงได้รับการฌาปนกิจ ในฐานะศพไร้ญาติ เป็นวาระสุดท้ายก่อนกลายเป็นเถ้าถ่าน

และวันนี้ของเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หรือ 13 พฤศจิกายน 2558 ที่ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ชาวบ้านออกมาทำงานตอนเช้า พบ รถกระบะคันหนึ่ง พุ่งลงไปในท้องนาทับต้นข้าวที่กำลังเติบโตเป็นทางยาว ถูกจอดทิ้งไว้ในสภาพไม่ปกติ ประตูรถถูกเปิดทิ้งไว้ ไฟหน้าไม่ได้ปิด มีคราบเลือดติดภายในห้องโดยสาร และมีรอยลักษณะลากเป็นทางยาวกลับไปยังถนน ตำรวจลากรถคันดังกล่าวกลับไปเก็บที่โรงพัก แต่ยังไม่ได้ติดตามหาเจ้าของ รถถูกจอดทิ้งไว้นานครึ่งเดือน จนกระทั่งชายคนหนึ่ง ติดต่อแม่ไม่ได้นานหลายสัปดาห์ และอยู่คนละจังหวัด จึงเดินทางมาแจ้งความคนหายที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ และพบว่ารถที่จอดอยู่ในโรงพัก คือรถของแม่ตัวเอง

ภาพจากอีจัน
โดยสภาพรถและลักษณะการเกิดเหตุ คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่าอาจเกิดเหตุร้ายกับเจ้าของรถ ในขณะที่ลูกชายของคนหาย ถูกตั้งคำถามจากตำรวจว่า #แม่ไปจอดรถไว้แล้วไปธุระหรือเปล่า ลูกชายคนหายพยายามระงับอารมณ์จะตอบกลับไปว่า #ถ้าพี่ไปธุระจะไปจอดรถพี่ไว้แบบนั้นมั้ย การสืบสวนติดตามหาแม่ ดำเนินการโดยลูกชาย ที่ไปถามข้อมูล และไปดูจุดเกิดเหตุ สอบถามเพื่อนที่ทำงานของแม่ จนได้ข้อมูลว่า ก่อนแม่หายไป แม่ทะเลาะกับสามีใหม่ด้วยเหตุหึงหวง จุดที่พบรถกระบะแม่จอดทิ้งไว้ในท้องนา ก็อยู่ในซอยเดียวกับบ้านของสามีใหม่แม่ เขาเล่าข้อมูลเหล่านี้ให้ตำรวจฟังหมดแล้ว กันยายน 2562 ลูกชายยังคงตามหาแม่ ได้โพสข้อความประกาศในโลกออนไลน์ เพื่อหาเบาะแส มูลนิธิกระจกเงา จึงประสานงานไปยัง คณะกรรมการบริหารจัดการคนหายและศพนิรนาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (คบคน.ตร.) ให้ช่วยลงไปติดตามคดี เพราะเป็นกรณีคนหายที่มีข้อบ่งชี้ว่าอาจเกิดอาชญากรรมร้ายแรง กระทั่ง พลตำรวจตรีไตรรงค์ ผิวพรรณ ในฐานะเลขานุการ คบคน.ตร.ลงพื้นที่ติดตามคดีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2562 ได้ตรวจดีเอ็นเอ ของลูกชายคนหาย เทียบกับศพนิรนามทั่วประเทศ และรู้ผลภายในหนึ่งชั่วโมงว่า แม่ของชายคนนี้ คือ คนเดียวกับศพนิรนามที่พบที่มหาสารคามเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2558 . #เจ้าของรถกระบะที่ถูกทิ้งไว้ – #ศพหญิงนิรนามที่ถูกฆาตกรรม – #คนหายที่ลูกชายตามหา #คือคนเดียวกัน
ภาพจากอีจัน
ข้อมูลคนหาย ข้อมูลศพนิรนาม ข้อมูลอาชญากรรม ที่ไม่เชื่อมโยงเป็นปัญหาสำคัญ การวิเคราะข้อมูล ตรวจสอบเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆในระบบราชการก็ไม่มีประสิทธิภาพ เจ้าของรถที่อาจเกิดเหตุร้ายไม่ถูกติดตามหาไม่แจ้งมายังญาติ ศพไม่ถูกนำไปเทียบข้อมูลคนหายทั่วประเทศ คนหายไม่ถูกไปเทียบกับศพทั่วประเทศ แม้เป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วแต่ควรเป็นบทเรียนที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องจะได้แก้ไขต่อไป แน่นอนว่าชีวิตต้องเดินต่อไปข้างหน้า คำถามคือ #ใครฆ่าเธอ คำตอบอยู่ในใจและอยู่ในสายลม ขณะนี้ขาดพยานสำคัญ จึงไม่สามารถอนุมัติขอหมายจับผู้ต้องสงสัยได้ การปล่อยให้คนหายกลายเป็นศพนิรนามก็มากเกินพอแล้ว อย่าปล่อยเวลารอให้คนร้ายลอยนวลอีกเลย
ภาพจากอีจัน
#ต้องการพยาน #เบาะแส #ผู้เห็นเหตุการณ์ กรณีคนหาย นางสุมาลี แสงเดือน อายุ 48 ปี หายตัวไปโดยพบรถกะบะของคนหาย จอดทิ้งไว้กลางทุ่งนา ในพื้นที่ ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เหตุการณ์น่าจะเกิดขึ้นในคืนวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 พบศพนางสุมาลีถูกทิ้งไว้ที่ หลังโรงเรียนบ้านโดท่างาม ตำบลห้วยแอ่ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ในเช้าของวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 . #แจ้งเบาะแส #มูลนิธิกระจกเงา โทร 0807752673