เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 เวลาประมาณ 15.30 น. ตำรวจกองบังคับการปราบปรามร่วมกันจับกุม นายจิราวุฒิ ชาวราษฎร์ หรือ เอิร์ธ อายุ 22 ปี จำเลยตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 468/2562 ลง 27 มิถุนายน 2562
โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป,ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
การจับกุมครั้งนี้ เกิดขึ้นเพราะว่า เมื่อประมาณ 4 ทุ่มของ วันที่ 21 มกราคม 2560 นายเอิร์ธ ได้ร่วมกันกับเพื่อนอีกคน ซึ่งตอนนี้ถูกจับดำเนินคดีแล้ว ขี่ จยย.ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวผู้หญิงชาวจีน แถวๆ ปากซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซอย 7 แขวงห้วยขวาง กรุงเทพฯ
หลังก่อเหตุ นายเอิร์ธ และเพื่อน ก็แยกย้ายกันหลบหนีไป
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
กระทั่ง นายเอิร์ธ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง จับกุมตัวได้ แต่เมื่อศาลให้ประกันตัวต่อสู้คดี นายเอิร์ธ กลับหลบหนี ไม่ไปศาลตามนัด ศาลอาญาจึงออกหมายจับ ต่อมา ชุดจับกุมจาก กก.๒ บก.ป. ได้ลงพื้นที่สืบ จนทราบว่า นายเอิร์ธ อาศัยอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ ซึ่งเปิดอู่ซ่อมรถและขายวัสดุก่อสร้าง จึงนำกำลังไปเฝ้าดูพฤติการณ์ พบว่า นายเอิร์ธ จะ ขี่ จยย.เข้าออกบ่อยๆ แต่จะมีความระมัดระวังตัวตลอดเวลา โดยสวมหมวกกันน็อค ปิดบังใบหน้า ทำให้ยากต่อการสังเกตและติดตาม
ภาพจากอีจัน
เจ้าหน้าที่ก็เลยวางกำลังเฝ้า พอสบโอกาส นายเอิร์ธ ขี่ จยย. ออกจากบ้าน จึงได้สะกดรอยตาม จนกระทั่งพบ นายเอิร์ธ จอดรถที่หน้าร้านซ่อมรถ จยย.ในซอยลาดพร้าว 114
เจ้าหน้าที่จึงลงจากรถแสดงตัวเพื่อจับกุม แต่ นายเอิร์ธ ไม่ยอมให้จับกุมพยายามหลบหนีจะเข้าไปในร้านซ่อมรถดังกล่าว
จนมีชาวบ้านแถวนั้นมาช่วย เจ้าหน้าที่ กระทั่งช่วยกันล็อคตัว นายเอิร์ธ นำตัวส่งศาลอาญา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพจากอีจัน
จากการตรวจสอบประวัติ นายเอิร์ธ พบว่า เคยก่อคดีในลักษณะเดียวกันในท้องที่ สน.ลาดพร้าว เมื่อ ปี 2559 และยังพบว่ามีหมายจับของศาลอาญา หมายจับ ที่ 550/2562 ลง 30 กรกฎาคม 2562 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไปและเพื่อให้พ้นการจับกุมจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ”อีก 1 หมายจับด้วย
จากการสอบถาม นายเอิร์ธ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ว่าไม่ได้ร่วมก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงได้ทำการสืบสวนต่อไป