พุ่มพวง ดวงจันทร์ ราชินีลูกทุ่งตลอดกาล

รำลึก 26 ปี พุ่มพวง ดวงจันทร์ ราชินีลูกทุ่ง

#ฉันคิดถึงเธอ พุ่มพวง ราชินีลูกทุ่งตลอดกาลของฉัน

ก่อนจากบ้านมา เพื่อนมันว่าให้ช้ำทรวง ไปเป็นนักร้องให้เขาล้วงมันเจ็บในทรวงไม่หาย ไม่เด่นไม่ดังจะไม่หันหลัง กลับไป
ทุกวันคืนนอนร้องไห้ อีกเมื่อไหร่ จะโชคดี..


ใครหลายๆคนคงเคยได้ยินเพลงท่อนนี้และคงจะคุ้นหูกันดี เรียกได้ว่าเป็นเพลงลูกทุ่งที่ดังมากในยุคนั้น เพราะได้นักร้องเสียงหวานอย่างพุ่มพวง ดวงจันทร์ เจ้าของฉายา ราชินีเพลงลูกทุ่ง ที่จำเนื้อร้องได้แม่น ทั้งที่เธอเองไม่รู้หนังสือ แม้วันนี้เธอได้จากไปแบบไม่มีวันหวนกลับ แต่เธอก็ยังคงเป็นราชินีลูกทุ่งของแฟนเพลงตลอดกาล


วันนี้ครบรอบ 26 ปีที่เธอได้จากโลกนี้ไป จันเลยอยากจะแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับราชินีลูกทุ่งคนนี้

ภาพจากอีจัน
พุ่มพวง ดวงจันทร์ คือชื่อที่ครูสอนร้องเพลงตั้งให้ ชื่อจริงๆของเธอ คือ รำพึง จิตรหาญ หรือผึ้ง เธอเกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2504 ถ้าตอนนี้เธอยังอยู่ อายุเธอก็จะราวๆ 56 ปี เธอเติบโตขึ้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี มีพี่น้องรวมกันถึง 12 คน เธอเป็นลูกคนที่ 5 ครอบครัวของพุ่มพวงมีฐานะค่อนข้างยากจน พ่อและแม่ทำอาชีพเกษตรกรรม รับจ้างตัดอ้อย แต่ด้วยความที่ครอบครัวมีลูก 12 คน รายได้ที่พ่อและแม่หามาได้นั้น ไม่เพียงพอ ประกอบกับสมัยนั้น แม่เห็นว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเรียน พุ่มพวงขณะนั้นเรียนอยู่ชั้น ป.2 ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน จึงทำให้เธออ่านหนังสือไม่ค่อยออก ..


พุ่มพวง เป็นเด็กที่ชื่นชอบในการร้องเพลงลูกทุ่งตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ว่าเธอจะอ่านหนังสือไม่ออก แต่เธอก็มีความจำที่ดีในระดับหนึ่ง เธอจึงหัดร้องเพลง และเริ่มเข้าประกวดตามงานต่างๆ ตั้งแต่อายุ 8 ปี โดยใช้ชื่อว่า “น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย” พอพุ่มพวงกวาดรางวัลจากเวทีการประกวดร้องเพลงแถวบ้านได้ เธอก็เริ่มออกล่ารางวัลจากเวทีอื่นๆไปทั่วจนหาคู่แข่งไม่ได้ อายุประมาณ 10 ปี พุ่มพวงตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ก่อนจะเข้ามาทำงานวงดนตรีของ ดวง อนุชา แต่ยังไม่ทันได้เป็นนักร้อง เธอก็ต้องเลิกทำงานเพราะต้องกลับบ้านที่สุพรรณบุรีก่อน

ภาพจากอีจัน
เมื่อเธออายุได้ 15 ปี ช่วงนั้น ไวพจน์ เพชรสุพรรณ นักร้องลูกทุ่งราชาเพลงแหล่ผู้โด่งดัง ได้นำวงดนตรีมาแสดงที่วัดทับลาน พุ่มพวงได้มีโอกาสร่วมร้องเพลงด้วย จนไวพจน์เห็นถึงความสามารถของเธอ และเกิดความเมตตา จึงรับพุ่มพวงเป็นบุตรบุญธรรม ก่อนพาไปอยู่ที่กรุงเทพฯด้วย ในความโชคร้ายของชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยังมีความโชคดีเหลืออยู่ ชีวิตใหม่ของพุ่มพวงหลังจากที่มาอยู่กับไวพจน์ เธอเริ่มต้นด้วยการเป็นหางเครื่อง หากวันไหนขาดนักร้องเธอก็สามารถร้องแทนได้พลางๆ จนกระทั่งวันหนึ่งไวพจน์แต่งเพลงและอัดแผ่นเสียงชุดแรกให้พุ่มพวง ชื่อเพลงว่า แก้วรอพี่ และใช้ชื่อในการร้องเพลงว่า น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ


การที่พุ่มพวงได้มาทำงานอยู่กับไวพจน์ ทำให้เธอสนิทสนมกับธีระพล แสนสุข ที่เป็นนักแต่งเพลงในวง ชีวิตรักของเธอก็เริ่มขึ้น เธอตกลงใช้ชีวิตคู่กับธีระพล ก่อนแยกตัวออกจากวงดนตรีไวพจน์ เพชรสุพรรณ มาเริ่มงานกับศรเพชร ศรสุพรรณ เธอต้องทำงานเป็นทั้งหางเครื่องและนักร้องในวงศรเพชร

ภาพจากอีจัน
ในปี พ.ศ.2519 ครูเพลงลูกทุ่งชื่อดังอย่าง "มนต์ เมืองเหนือ" รับเธอเป็นลูกศิษย์ และได้เปลี่ยนชื่อเธอเป็น "พุ่มพวง ดวงจันทร์" เธอเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อยๆ จนตั้งวงดนตรีเป็นของตัวเอง แต่ไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ เวลาผ่านไป เธอได้เซ็นสัญญาเป็นนักร้องในบริษัทเสกสรรเทปของประจวบ จำปาทอง นับเป็นนักร้องหญิงคนแรกของบริษัท พุ่มพวงเริ่มประสบความสำเร็จในชีวิตการเป็นนักร้อง เธอได้รับรางวัลเสาอากาศทองคำพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากเพลง "อกสาวเหนือสะอื้น" ซึ่งเป็นผลงานของธีระพล แสนสุข นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคใดใดที่เข้ามาในชีวิต แม้ว่าเธอเองจะจบไม่สูง อ่านหนังสือไม่ออก แต่เธอก็ใช้พรสววรค์ที่มีทำให้เธอมีวันนี้ได้


พุ่มพวง ทยอยปล่อยผลงานเพลงออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังมากมาย เรียกได้ว่ายุคนั้น เป็นปีทองของเธอจริงๆ เธอได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีความสามารถในการร้องเพลงยอดเยี่ยม และมอบฉายา "ราชินีลูกทุ่ง" ต่อจาก ผ่องศรี วรนุช

ภาพจากอีจัน
แต่ชีวิตคนเราไม่จีรัง .. วันที่ 13 มีนาคม 2535 มีข่าวปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่า พุ่มพวงป่วยเป็นโรคไตขั้นรุนแรง จนต้องเข้าโรงพยาบาล แพทย์ตรวจพบว่า พุ่มพวงด้วยโรคเอสแอลอีหรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง อาการอยู่ในขั้นอันตรายลุกลามถึงไต เธอใช้เวลารักษาตัวเองนานถึง 3 เดือน แพทย์บอกอาการของเธอดีขึ้นแล้ว ทางด้านญาติของพุ่มพวงมีความเห็นว่าควรรักษาด้วยไสยศาสตร์ และพาพุ่มพวงเดินทางไปจังหวัดพิษณุโลก เพื่อไปกราบไหว้พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ แต่หลังจากกราบไหว้พระพุทธชินราชเสร็จ พุ่มพวงเกิดอาการช็อกและหมดสติ ญาติจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช และในวันนั้นเอง …พุ่มพวงก็ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบ
ภาพจากอีจัน