ดอยอินทนนท์ -1 องศา แล้วเช้านี้ (7ธ.ค.62) ภาพแม่คะนิ้งและเหมยขาบขาวโพลนละลานตา ให้ความรู้สึก ทั้งหนาวทั้งสดชื่น เห็นแล้วอยากเก็บกระเป๋า คว้าถุงนอนไปขอนอนชมดาวที่อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์เสียวันนี้พรุ่งนี้เลย
จริงๆแล้วเพิ่งไปไต่ดอยอินทนนท์มาเมื่อเดือนก่อน ในวันที่อากาศเย็น 6 องศา ช่วงนั้น ก็สดชื่นแย่แล้ว มีนักท่องเที่ยวมาล่าความหนาวกางเต็นท์หลากสี ในป่าสนของอุทยานฯ กันหนาแน่น กลางคืนชมดาว ช่วงดึกหนาวน้ำค้าง รุ่งสางชมหมอก อิงอุ่นไอร้อนจากถ้วยกาแฟหอมๆ ชีวิตช่าง…งดงาม
สายๆไปออกเดินเล่น ไม่ไกลจากอุทยานดอยอินทนนท์ เราเจอตลาดเล็กๆ สีสันแสบตา ทุกร้านล้วนประชันกันด้วยชุดชาวเขาเผ่าต่างๆ ที่มีทั้งชุดฉลองปีใหม่ ชุดแต่งงาน และ เครื่องประดับที่ดูอลังการงานสร้างมากๆ ก็ได้แต่ชม ไม่กล้าช้อป เพราะอันตัวเรานี้ ยังแฟชั่นไม่พอที่จะใส่สีสันแบบนี้ได้ 555
จากตลาดเล็กๆ แอดนูนนี่ ชวนไปเที่ยวป่าดึกดำบรรพ์ที่สมบูรณ์ที่สุดในไทย ซึ่งอยู่บนยอดดอย ฟังชื่อก็น่าสนใจยิ่ง เราขับรถไต่ขึ้นดอยไปเรื่อยๆ ยิ่งสูงอากาศยิ่งเย็นขึ้น และเย็นขึ้น จนถนนห่มด้วยหมอกจางๆ ต้องขับรถช้าๆไปจนจนถึงยอดดอย ตอนนี้เราอยู่สูงกว่าน้ำทะเล ประมาณกว่า 2,500 เมตร บรรยากาศเหมือนมาถึงเมืองในหมอกเลย
เส้นทางเข้าป่าดึกดำบรรพ์ ชี้ให้เห็นชัดเจน มีการทำทางปูด้วยไม้ให้เดินสบายๆ เดินไปไม่กี่ก้าว ก็ทำให้เรารู้สึกราวกับหลงหลุดเข้าสู่โลกเทพนิยาย ต้นไม้สองข้างทางล้วนมีรูปทรงประหลาด รูปร่างแปลกตา แทรกด้วยหมอกสีขาวจางๆหยอดลงตรงยอดไม้บ้าง บดบังเส้นทางบ้าง ทำให้ป่ายิ่งดูลึกลับชวนสะกดให้เดินเข้าไปราวกับต้องมนต์
ยิ่งเดินลึกเข้าไป ทุกอณูรอบกายก็จะเป็นสีเขียว เขียวอ่อน เขียวแก่ เขียวเหลือง เขียวแดง มันเขียวไปหมด เป็นความสวยน่าระทึกใจมากๆ แต่ที่ชอบมากกว่าได้ถ่ายรูป คือ ได้สูดอากาศ ที่นั่นอากาศมันสดชื่นระดับ 10 จริงๆ
เราเดินเล่นไปตามทางไม้ช้าๆ ถ่ายรูปต้นไม้ต่างๆ บางต้นมีป้ายแปะบอกชื่อ ให้คนได้รู้จัก เช่น ข้าวตอกฤาษี กุหลาบพันปี หรือ จะดูมอสที่เพิ่งขึ้นสดๆ ถ่ายรูปก็ออกมาสวย ฝีมือดีราวมืออาชีพ 555
เดินจนอิ่มก็ออกมาจาก ป่าดึกดำบรรพ์ ขับรถลงดอยมาไม่นานก็แวะเดินชมเส้นทางธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน
พอรถจอด เสียงของแอดนิ่มนวลก็ดังกวนประสาทหูขึ้นมาในมโนว่า “พี่จันต้องไปนะ กิ่วแม่ปานมันสวยมาก เดินไม่นาน เส้นทางก็ดี ไม่เหนื่อย แต่ สวยๆๆๆๆ หนูฟินสุดๆ พี่ต้องห้ามพลาด”
เอาก็เอา นิ่มนวลขายเสียขนาดนั้น เราก็พร้อมเดิน ก็ต้องเข้าลงทะเบียนก่อน จากนั้นจะมีไกด์ เป็นคนท้องถิ่นมานำพากรุ๊ปของเราเดินขึ้นไป ไกด์สุดหล่อยิ้มๆ บอกเราว่า เดินช้าๆนะครับ อากาศดีๆ เดินสบายๆแค่ 3 กิโลเมตร เองครับ
ค่ะ 3 กิโลเมตร จิ๊บๆ ทางถูกปูด้วยไม้สะดวกสบายปลอดภัยไม่ลำบาก เหลือแค่ก้าวเท้าไปเรื่อยๆ เอ ทำไมเหนื่อย 555 ไกด์สุดหล่อ บอก มันจะเหนื่อยนิดนึงเพราะเราเดินขึ้นเขา ให้ค่อยๆเดิน
แล้วชี้ชมน้ำตก ชม รอยหมีตะตบต้นไม้ เพื่อบอกเราว่า ป่าแห่งนี้มีความสมบูรณ์อย่างแท้จริง
ตอนนี้จะเหนื่อยแค่ไหน ก็ต้องเดินละ เท้าก็ก้าว จมูกก็หายใจ ตาก็ดื่มด่ำกับต้นไม้ที่ปกคลุม เป็นร่มเงาตลอดเส้นทาง พอร่างกายปรับตัวได้ คราวนี้ก็เริ่มเดินสบายขึ้น มีหยุดพักนิดหน่อย จนกระทั่งถึงปลายทาง
จากป่าก็หลุดออกไปเจอ ทุ่งดอกไม้แสนสวย ไกด์ยิ้มหวานว่าวันนี้เราโชคดี ฟ้าเปิด เป็นสีน้ำเงิน เราน่าจะมองเห็นแม่แจ่มชัดเจน
เดินชมทุ่งดอกไม้ป่าไปเรื่อยๆ อยากบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่ชอบมากๆ เพราะเป็นคนชอบดอกไม้ และก็ถ่ายภาพได้สวย เลยใช้เวลากับดอกไม้ในทุ่งหญ้านานหน่อย กว่าจะพาตัวเดินมาถึงจุดชมวิวที่มองเห็นแม่แจ่มชัดอยู่พักใหญ่ หมอกหนาๆก็เริ่มลง
ถึงตอนนี้เราก็อิ่มเอมกับธรรมชาติบริสุทธิ์ตรงหน้าแล้วก็ ค่อยๆ เดินกลับ ยอมรับว่า สวยสมราคาขายของนิ่มนวล แม้นางจะบอกว่าเดินนิดเดียวไม่เหนื่อยเลยก็ตาม 555
เล่าเรื่องเสน่ห์สะกดเราที่อินทนนท์ให้ลูกเพจฟัง ก็หวังเพียงว่า เผื่อใครได้อ่านแล้วตัดใจเก็บกระเป๋า หอบเต็นท์ พร้อมเดินทางช่วงอากาศติดลบนี้ ก็ขอให้ชวนเราไปด้วยสักคนเถอะ อยากจะชมแม่คะนิ้งกับเขาบ้าง ป่าดึกดำบรรพ์ก็อยากไปอีก กิ่วแม่ปาน ก็คงจะสวยอีกแบบแน่ๆ โอ๊ยยยยยยย อยากไป…แลกเวรช่วงหยุดปีใหม่ดีกว่า 555