หลังจากที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และพวกรวม 4 คน ในคดีการหายตัวไปของบิลลี่ พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (13 ม.ค. 63) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้เดินทางมาพร้อมกับนายพรชัย พฤกษ์พิชัยเลิศ ทนายความ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่ออัยการสูงสุด ขอความเป็นธรรมในคดีบิลลี่
ขณะที่นายพรขัย ทนายความ เผยว่า คดีนี้การสอบสวนบางอย่างที่เราใช้คำว่าตั้งข้อสังเกตในวัตถุพยาน ยังมีความเคลือบแคลงสงสัยอยู่บางส่วน โดยเป็นในส่วนของตัวของนายชัยวัฒน์ และมูลเหตุของการหายหายตัวไปของบิลลี่ ซึ่งเราก็ได้นำเรียนต่อท่านอัยการไปว่ามีหลายส่วนที่อยากให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม
ส่วนในประเด็นหลักคือเรื่องของกระดูกรวมถึงวัตถุพยานที่พบ ซึ่งเราได้ตั้งข้อสังเกตไปในหนังสือร้องเรียนแล้วว่าไม่น่าจะใช่ของบิลลี่ ซึ่งในส่วนของวัตถุพยานถ้าค้นได้ในลักษณะที่ใหญ่หรือมากกว่านี้ และมีการตรวจให้ชัดเจน ทางเราด้วยความบริสุทธิ์ใจก็ยินดี
ด้านนายชัยวัฒน์ กล่าวเสริมว่า ข้อหาที่ทางพนักงานสอบสวนตั้งไว้กับตนนั้น ทางพนักงานสอบสวนไม่ได้มีการรายงานการชันสูตรพลิกศพอันเป็นหลักฐานเบื้องต้นว่าคนตายเป็นใครและตายด้วยสาเหตุใดมีเพียงผลการตรวจกระดูกเศษกะโหลกศีรษะมนุษย์ที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษอ้างว่าเป็นพยานหลักฐานสำคัญซึ่งเป็นการตรวจโดยใช้วิธีไมโทรคอนเดรียดีเอ็นเอ
แต่การตรวจโดยใช้วิธีไมโทรคอนเดรียดีเอ็นเอนั้นก็ไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าเป็นเพศชายหรือหญิงรวมถึงไม่สามารถตรวจระบุอัตลักษณ์ยืนยันตัวบุคคลได้จึงทำให้เห็นว่าเป็นที่น่าเคลือบแคลงสงสัย
ถ้ายืนยันความบริสุทธิ์ใจของทั้งสองฝ่ายรวมถึงผู้ต้องหา หากพบชิ้นส่วนที่ใหญ่กว่านี้ก็จะสามารถตรวจอัตลักษณ์ได้เลย โดยการตรวจในลักษณะไมโครแซทเทลไลท์ จะสามารถระบุได้เลยว่า ชิ้นส่วนที่พบเป็นบิลลี่หรือไม่