ติด QRCODE ควบคุม หลัง อนุญาตให้ ต.น้ำพุ ปลูกกระท่อมได้ไม่ผิดกฎหมาย

ต.น้ำพุ ได้รับอนุญาตให้ปลูกกระท่อมหลังละ 3 ต้น โดยติด QRCODE ควบคุม ห้ามตัด ห้ามแต่ง ห้ามปลูกเพิ่ม

ชาวบ้าน 6 หมู่บ้านในตำบลน้ำพุ อ.บ้านนาสาร สร้างความร่วมมือเพื่อการควบคุมพืชกระท่อมอย่างมีส่วนร่วม

เบื้องต้นให้แต่ละบ้านมีพืชกระท่อมไม่เกิน 3 ต้นต่อหลัง พร้อมนำคิวอาร์โค๊ต มาใช้เพื่อควบคุม ตลอดจนสร้างความเข้าใจร่างรัฐธรรมนูญตำบล การลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญ และการประกาเจตนารมให้ชาวบ้านได้เข้าใจ

ภาพจากอีจัน


วันนี้ (16 ก.ค.61) ที่ อ.บ้านนาสาร จัดโครงการ ศึกษาวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบการควบคุมพืชกระท่อม เพื่อสร้างความร่วมมือการควบคุมพืชกระท่อมอย่างมีส่วนร่วมของชุมชน ตำบลน้ำพุ อ.บ้านนาสาร

โดยมีชาวบ้านจาก 6 หมู่บ้าน กว่า 1 พันคน เข้าร่วมรับฟังเพื่อสร้างการรับรู้ความเข้าใจในวิถีชุมชนถึงผลกระทบจากการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด การชี้แจงสร้างความเข้าใจร่างรัฐธรรมนูญตำบล การลงมติรับร่างธรรมนูญตำบลและการประกาศเจตนารมที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดชนิดอื่น 

ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 จากคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

ภาพจากอีจัน


ซึ่งจากโครงการวิจัยดังกล่าวที่ผ่านมาในช่วงระยะ 2 ปีกว่า มีชาวบ้านได้รับอนุญาตให้มีพืชกระท่อมไว้ในครอบครอง โดยที่ผ่านมาได้สร้างการรับรู้ ความเข้าใจในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพืชกระท่อมในวิถีชุมชนจากอดีตถึงปัจจุบัน

ผลกระทบที่มีต่อชุมชน ด้านสุขภาพของผู้ใช้ การบังคับใช้ข้อกฎหมายของภาครัฐและทางการทดลองควบคุมพืชกระท่อมโดยการมีส่วนร่วมชองชุมชนผ่านธรรมนูญตำบล เพื่อการควบคุมพืชกระท่อม นำไปสู่การจัดทำฐานข้อมูลพืชกระท่อม การติด QRCODE เพื่อควบคุมพืชกระท่อม จำนวน 1578 ต้น จาก 655 ครัวเรือน

และคาดหวังให้ตำบลน้ำพุ อ.บ้านนาสาร เป็นต้นแบบในการขยายผลการควบคุมพืชกระท่อมและสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนปลอดภัยจากยาเสพติด

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ด้านนายปรีชา แก้วอำรัตน์ อายุ 38 ปี ชาวบ้านตำบลน้ำพุ กล่าวว่า ขณะนี้ทาง ปปส.ให้ชาวบ้านที่มีพืชกระท่อมหลังละไม่เกิน 3 ต้น และมีการติด QRCODE ทุกต้น โดยไม่มีการตัดหรือปลูกใหม่แต่อย่างใด ถือเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากพืชกระท่อมเป็นพืชที่สามารถรักษาโรคได้