ครอบครัวคาดปมฆาตกรรมไฮโซสาว หวังผลประโยชน์

จากเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ เชอร์รี่ หรือน.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ ไฮโซสาวนักธุรกิจไฟแรง ถูกไม้เบสบอลทุบกะโหลกแตก เสียชีวิตคาห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านถนนประดิษฐ์มนูธรรม คืนวันที่ 31 ก.ค.61 ที่ผ่านมา

ขณะนี้ศาลอาญารัชดาได้อนุมัติหมายจับนายอัศยา ชัยภา หรือโก้ ชายที่อยู่กับไฮโซสาวเป็นคนสุดท้ายก่อนที่เธอจะเสียชีวิต !! ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โก้ได้หลบหนีไปตั้งแต่คืนวันที่ 27 ก.ค. ตอนนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวในพื้นที่ จ.จันทบุรี โดยจอดรถเบนซ์ของไฮโซสาวทิ้งไว้ใกล้ชายแดนไทย – กัมพูชา

ครอบครัวของไฮโซสาว จัดตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดบางบัว บางเขน นายพิพัฒน์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ น้องชายของไฮโซสาว เผยว่า ค่อนข้างที่จะสนิทกับพี่สาว เราคุยกันตลอด แต่พี่สาวไม่ค่อยบอกเรื่องส่วนตัวสักเท่าไหร่ รวมไปถึงเรื่องของนายโก้ด้วย ตนก็ไม่รู้มาก่อนว่าคบหากับพี่สาว เห็นเพียงแค่ทำงานอยู่ในบริษัทของพี่สาวเท่านั้น แต่ก็ไม่เคยพบว่านายโก้มีพฤติกรรมส่อแวว เป็นมากกว่าเจ้านายและลูกน้องเลย

ส่วนเรื่องที่ทั้งสองคนพักอยู่ด้วยกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ทางครอบครัวไม่รู้มาก่อนเช่นกัน แต่คาดว่าพี่สาวต้องการที่จะปกปิดความสัมพันธ์ระหว่างนายโก้ สาเหตุที่นายโก้ต้องลงมือฆ่าพี่สาวนั้น คิดว่าอาจจะเป็นเรื่องเงินและผลประโยชน์

ด้านนายอำนวย วิชัยโชติ พ่อของไฮโซสาว เผยว่า ลูกสาวมีบริษัทธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เร็วๆ นี้ ได้จัดทำโครงการอาคารเอื้ออาทรกว่า 100 ห้อง บริเวณลาดพร้าว – วังหิน ลูกสาวเป็นที่รักใคร่ของคนในชุมชน เพราะชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ ยอมรับว่าลูกสาวเป็นคนเก่ง สามารถแยกออกมาทำธุรกิจได้ แต่ในฐานะคนเป็นพ่อก็เตือนลูกอยู่เสมอว่า ต้องระมัดระวังตัวเองให้มาก เพราะอาจขัดแย้ง หรือถูกทำร้ายได้ แต่ลูกสาวไม่ค่อยฟังคำเตือน เพราะเชื่อมั่นในตัวเองมาก

ตนรู้สึกช็อกมากเมื่อได้ข่าวว่าลูกสาวเสียชีวิต เพราะทำธุรกิจลูกสาวไม่เคยมีความขัดแย้งกับใครเลย และก็ไม่มีวี่แววว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

เมื่อ 2 ปีก่อน ลูกสาวเคยหายตัวไปประมาณ 2-3 วัน ตอนนั้นตนก็ถามว่าไปไหนมา เขาก็ไม่เล่ารายละเอียดให้ฟัง เป็นคนชอบเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองเสมอ ก่อนเกิดเหตุก็เป็นแบบเดียวกัน คือลูกสาวหายตัวไปติดต่อไม่ได้ จึงได้ให้ลูกชายช่วยตามหาจากสัญญาณโทรศัพท์มือถือ จนพบตัวที่ห้องพักดังกล่าว

ส่วนนายอัศยา ไม่เคยทราบมาก่อนว่า มีความสัมพันธ์เป็นมาอย่างไรกับลูกสาว เคยพามากินข้าวกับครอบครัวเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้อธิบายว่าเป็นใคร มาจากไหน เพราะรู้ว่าถ้าลูกสาวไม่พูด หมายถึงเขาไม่อยากให้รู้

ความรู้สึกในตอนนี้ อยากจะเอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ อยากให้โดนเหมือนที่ลูกสาวโดนให้สาสมกับการกระทำผิด