ก.บ.ศ. ให้ใช้พื้นที่เชียงรายสร้างบ้านพักศาล แทนริมดอยสุเทพ

เป็นหัวข้อถกกันมานานสำหรับปัญหาบ้านพักตุลาการณ์ ภาค 5 ที่ถึงแม้จะมีคำสั่งยกเลิกสร้างไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีปัญหาคาราคาซังทั้งเรื่องสิ่งปลูกสร้างที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ รวมถึงการหาพื้นที่สร้างบ้านพักแห่งใหม่ โดยต้องเป็นพื้นที่ที่ทุกภาคส่วนยอมรับได้ ซึ่งปัญหานี้ ล่าสุดมีทางออกให้กับเรื่องนี้แล้ว

โดย นายสราวุธ เบญจกุลเลขาธิการ สำนักงานศาลยุติธรรม ได้ออกมาเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 – 10 ส.ค.61 ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมสัญจร (กบศ.) มีมติมอบหมายให้สำนักงานศาลยุติธรรมทำความตกลงขอใช้ที่ดินจากกรมวิชาการเกษตร บริเวณศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย จ.เชียงราย ประมาณ 40 ไร่เศษ เพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 พร้อมที่พักอาศัย และดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลต่อไป

โดยก่อนหน้านี้ สำนักงานศาลยุติธรรมได้ลงพื้นที่ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย เพื่อดูพื้นที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 จนวันที่ 10 ส.ค. ได้มีการนำเสนอสถานที่ดังกล่าวให้ที่ประชุม ก.บ.ศ.พิจารณาเห็นชอบสถานที่ดังกล่าว โดยสถานที่ดังกล่าวหากได้รับการจัดสรรงบประมาณ เเละก่อสร้างที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 จนเเล้วเสร็จ ก็จะย้ายที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 จากที่ริมดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ มายังพื้นที่ใหม่นี้ เป็นการย้ายมาทั้งหมด ทั้งที่ทำการเเละที่พักอาศัย โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี

สำหรับการส่งมอบงานก่อสร้างอาคารที่ทำการและที่พักตุลาการ-ข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 นั้น ผู้รับเหมาจะส่งมอบงานงวดสุดท้ายในวันที่ 24 ส.ค.นี้ ซึ่งหลังจากสำนักงานศาลยุติธรรมรับมอบงานเรียบร้อย ก็จะดำเนินการทำเรื่องเสนอส่งมอบคืนพื้นที่การก่อสร้างนี้ให้กับหน่วยงานเดิมหรือคืนให้กับรัฐบาลอย่างไรก็ขึ้นกับรัฐบาลมีความเห็นชอบต่อไป

ส่วนทางด้าน เครือข่ายทวงคืนป่าดอยสุเทพ ยังคงยืนยันต้องรื้อบ้านพักศาลบริเวณดอยสุเทพเท่านั้น
ตัวแทนเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวว่า ไม่เคยเรียกร้องขอให้ย้ายที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 และ บ้านพักข้าราชการไปที่อื่น

แต่เรียกร้องให้รื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำเข้าไปในเขตป่าดอยสุเทพ ซึ่งหมายถึงบ้านพักตุลาการ 45 หลัง และ อาคารชุดอีก 9 หลัง รวมทั้งย้ายข้าราชการที่เข้าอยู่ในอาคารชุด ไปอยู่ในอาคารชุดอีก 4 หลังที่อยู่นอกเขตแนวป่าโดยเร็วที่สุด

ซึ่งการย้ายไปจังหวัดเชียงราย เป็นคนละประเด็นกับที่เครือข่ายเรียกร้องและวันนี้ทางเครือข่ายยังคงยืนยันข้อเรียกร้องเดิม คือ รื้อบ้านพักและอาคารชุดที่พักอาศัยในเขตแนวป่าทั้งหมด ส่วนจะย้ายไปที่ไหนก็เป็นเรื่องความเหมาะสมที่ ก.บ.ศ.จะตัดสินใจ