“อย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจ” เปิดใจเจ้าหนี้ใจบุญ คืนโฉนดที่ดิน ยกหนี้ ให้ลูกหนี้เกลี้ยง หลังมีคนรู้ แห่มาขอเงินเพียบ

เจ้าหนี้สาวใจบุญ ตัดพ้อ หลังประกาศล้างหนี้ให้ ลูกหนี้ ก็มีคนติดต่อขอบยืมเงินเพียบ เจ้าตัวลั่นคำย่าสอน “ทำมาหากินด้วยตนเอง ไม่ยืมจมูกคนอื่นหายใจ”


จากกรณีสาวสวยรายหนึ่งโพสคลิประบุข้อความว่า “ยกหนี้ให้ลูกหนี้ กรณีนี้ลูกหนี้อายุเยอะ และมีโรคประจำตัว ลูกหนี้ขอผ่อนจ่าย แต่ทางเรายกให้ลุง ลุงจะสบายใจขึ้นไม่ต้องเครียด เพราะการเครียดจากการมีหนี้สิน ต้องกังวลว่าจะมีบ้านอยู่มั้ย มันทุกทรมาน กรณีนี้ค้างผ่อนดอกมา 6 เดือนถือว่าหลุดจำนอง แต่อรอนงค์ ขอมอบให้ลุงเป็นของขวัญให้ลุงนะ(ผ้าขี้ริ้ว
ยอมสกปรก เพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด ปู่ผู้ล่วงลับได้สอนเอาไว้)”

ทีมข่าวอีจัน ในจังหวัดชุมพร จึงลงพื้นที่ ไปพูดคุยกับ เจ้าหนี้ใจดีคนนี้

เธอชื่อ น้องอร น.ส.อรอนงค์ กาลพัฒน์ อายุ 37 ปี


น้องอร บอกกับ อีจันถึงสาเหตุที่คืนโฉนดที่ดินให้ลูกหนี้ทั้ง 2 ราย
เพราะเริ่มตั้งเป้าหมายตั้งแต่ปลายปี2566 ว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นบุญกุศลให้กับตัวเอง

จึงสำรวจรายชื่อลูกหนี้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ หลังจากนั้นสืบติดตามว่าคนไหนลำบากที่สุด
และพยายามใช้หนี้ แต่พยายามเท่าไหร่ก็ยังไม่มีเงินมาจ่ายดอกหรือต้นให้ได้ และการดำรงชีวิตยังลำบากเงินไม่พอใช้

คนเหล่านั้นอาจจะต้องทุกข์ทรมานทุกวันทุกคืน

ในปี 2567 จึงคิดทำบุญจะยกหนี้ให้ลูกหนี้จำนวน 2 ราย ซึ่งมีความลำบากจริงๆ
รายแรก เป็นลุงผู้ชายมีโรคประจำตัว ส่วนภรรยาป่วยเข้าโรงพยาบาลบ่อย
สภาพการเงินในครอบครัวแย่เพราะรับจ้างทั่วไป

ลุงเอาโฉนดที่ดินมาจำนองไว้เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่กว่า ถ้าคิดเป็นมูลค่าราคาหลักล้านบาท ซึ่งค้างส่งมา 6 เดือน รวมเงินดอกต้นประมาณกว่า 5 หมื่นบาท ถือว่าหลุดจำนอง แต่ตนเองไม่ฉวยโอกาสยึดที่ดิน

รายที่ 2 เป็นลูกหนี้เอาโฉนดที่ดินพื้นที่ทำเลดีมากมาไว้
มีอาชีพรับซื้อพืชใบกระท่อมสดเหมือนกับตน แต่ส่งเพียงจังหวัดชุมพร-ระนอง กำไรแทบไม่พอค่ารถ และถูกโกงบ่อยมาก ล้มแล้วล้มอีก
มีลูกน้อยยังต้องกินนมบางวันแทบไม่มีเงินเลย ตนคิดว่าไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกินก็เป็นทุกข์แล้ว
แถมเป็นหนี้เราอีก

กลัวว่าเราจะยึดที่ไหมหรือที่ดินผืนนี้อาจจะเป็นที่ดินมรดกตกทอดกันมาซึ่งตนคิดว่ามันเป็นการทรมานใจ แต่ละคืนคงนอนไม่หลับ

ซึ่งที่ผ่านมาลูกหนี้ทั้ง 2 รายนี้ ตนไม่เคยโทรทวงเลย

น.ส.อร เผยว่า สิ่งที่ทำลงไปเพราะอดีตตนเองก็เป็นเด็กกำพร้ามาก่อน ไม่มีแม้แต่บ้าน ไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย โตมาในบ้านปู่ย่าชุดนักเรียนใหม่ๆ ยังไม่มีใส่เหมือนเพื่อนคนอื่น
ทนสู้ชีวิตปากกัดตีนถีบ ทำงานเลี้ยงชีพโดยการขายลูกชิ้นปิ้งในปั้มน้ำมันขายข้าวแกงมาก่อน หาเช้ากินค่ำ

ใช้ชีวิตยึดตามคำสอนของ ปู่ย่าที่ว่า
“วันหนึ่งเมื่อเรายืนได้แล้ว จงหยิบยื่นน้ำใจให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน”

“ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน ไม่ก่อร่างสร้างหนี้ ทำมาหากินด้วยตนเอง ไม่ยืมจมูกคนอื่นหายใจ”

จนเจอช่วงจังหวะพลิกผันเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน ขณะนั้นรัฐบาลปลดล็อคพืชใบกระท่อมวันแรก ตนก็ไลฟ์ขายในติ๊กต๊อก อยู่ๆออเดอร์ไต่ระดับจาก 20 สู่ 100 กิโลกรัม ดีใจมาก ปัจจุบันมียอดสั่งซื้อใบกระท่อมสดจากทั่วประเทศประมาณ 3 ตันต่อวัน


แต่เรื่องที่หนักใจ คือหลังจากเป็นข่าวออกไป ก็มีคนที่รู้จักและไม่รู้จักทักมาขอเงินเยอะมาก รวมๆ นับ 100 ข้อความ

อาชีพตนรายได้พอเลี้ยงครอบครัว ใครที่ทักมาขอเงินให้พึ่งพาตนเองก่อน หรือพึ่งพาคนรอบข้างเช่นญาติพี่น้อง
ขอบอกว่าปีนี้ตนเองช่วยเหลือได้แค่สองคนเท่านั้น