ปวดหัวที่ไม่ใช่ปวดหัวธรรมดา
หญิงวัย 40 ปวดหัวไม่รู้สาเหตุ ตอนนี้ #เสียชีวิตปริศนาค่ะ
ครอบครัวติดใจ วอน โรงพยาบาลออกมาชี้เเจง
ที่บอกว่า ตรวจไม่เจออะไร เเต่ทำไมพี่สาวเสียชีวิต ?
เรื่องราวนี้ถูกโพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งค่ะ
เธอ โพสต์เล่าเรื่องราวว่า พี่สะใภ้ของเธอ อายุเพียง 40 ปี เเต่งงานมีลูก 3 คน อยู่บ้านหลังเดียวกันมา 6-7 ปี ไม่เคยเห็นป่วย หรือ ไม่สบายเลย
สัญญาณที่บ่งบอกความผิดปกติ ก็เริ่มขึ้น …
ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2566
พี่สะใภ้มักบอกว่า ปวดหัวอยู่บ่อยครั้ง และมีสีหน้าซีดเซียว ซึ่งปกติพี่สะใภ้จะเป็นคนที่ห่วงลูกมากไม่ค่อยฝากใครเลี้ยง แต่ในช่วงนั้นฝากคนที่บ้านเลี้ยงบ่อยจนทำให้เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และเห็นพี่สะใภ้ทานยาแก้ปวดหัวกลุ่มประเภทไมเกรน และทานยาขยายหลอดเลือดด้วย เเต่ ณ ตอนนั้น เธอก็คิดว่าคงไม่เป็นอะไรมาก
กระทั่งวันที่ 28 ต.ค.66 ก็ยังไม่หายปวดหัว
พี่ชายจึงพาพี่สะใภ้ไปหาหมอ ที่โรงพยาบาลเเห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ไปรักษาเป็นประจำอยู่เเล้วไม่ว่าคลอดลูกหรือเจ็บไข้ได้ป่วย
แต่แล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อหลังจากที่เธอเลิกงานในตอนเย็นและกลับเข้ามาในบ้าน เห็นพี่สะใภ้นอนบนโซฟา ซึ่งเธอไม่เคยเห็นพี่สะใภ้นั่งเล่น หรือ นอนบริเวณชั้น 1 ของบ้านเลย ภาพที่เห็น คือ พี่สะใภ้นอนขดตัว เธอจึงถามแม่กับพี่ชาย ว่า ทำไมถึงไม่นอนข้างบน ก็ได้รับคำตอบมาว่าเพิ่งไปหาหมอ และหมอบอกว่าอาการไม่ได้เป็นอะไรมาก น่าจะพักผ่อนน้อย หรือมีอาการเครียด หลังจากนั้นพี่สะใภ้ก็ได้เดินขึ้นไปนอนบนห้อง โดยมีพี่ชายของเธอ เฝ้าดูจากกล้องวงจรปิด
“ระหว่างนั้นพี่ชายเราเองสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกจากกล้อง พี่…มีอาการพลิกตัวไปมาบ่อยบ่อยเลยขึ้นไปดู ซึ่งพอพี่ชายถามว่า แกไหวไหม แกก็บอกว่าโอเคขอกอดลูก ซึ่งแกไม่ได้พูดออกมาเป็นคำพูดแต่แกพยายามทำท่าทาง
ช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่ม พี่ชาย LINE มาถามเราว่า พี่…นอนหลับลึกจัง กินยาสามตัวเข้าไป ซึ่งเป็นยากลุ่มคลายเส้นคลายเครียด พี่ชายถามเราว่า ปกติหลับลึกเหรอกินยาพวกนี้ เราก็ตอบไปว่าใช่ ปกติกินยาพวกนี้แล้วจะหลับลึกมาก (มีช่วงหนึ่งที่เราเคยใช้ยากลุ่มนี้เพื่อการนอนหลับ) จากนั้นเราก็เลยขึ้นไปช่วยพี่ชายดูยา แล้วช่วยกันเสิร์ชหาอาการข้างเคียงซึ่งก็พบว่ายาทั้งสามตัวที่กินเข้าไปนั้นเป็นยาที่กินแล้วหลับจริง พี่ชายเรากับเราก็คิดว่า หมอคงจ่ายยาให้เเกพักผ่อนเยอะๆ เพราะแกคงนอนหลับไม่สนิทมาหลายวันมั้ง
จากนั้นพี่ชายก็เข้าไปดูพี่สะใภ้ ก็บอกว่าดูหลับลึกเกินไป มันแปลกมาก ก็เลยโทรไปเช็กโรงพยาบาล ได้คำตอบมาว่าให้พามาที่โรงพยาบาลด่วน
จากนั้นเรากับพี่ชายก็ไม่รีรอช่วยกันอุ้มพี่สะใภ้ออกจากบ้านแล้วขึ้นรถ พาไปโรงพยาบาลในทันที ระยะเวลาจากบ้านไปถึงโรงพยาบาลไม่เกิน 20 นาที…
แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาล สิ่งที่เราได้ยินทางเจ้าหน้าที่พยาบาลพูดว่าชีพจรหยุดเต้น”
เธอเเละพี่ชายได้ยินดังนั้น ก็ตั้งสติค่ะ
เเพทย์พยายามช่วยยื้อชีวิต ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที เเต่ไม่เป็นผล
“มาถึงทุกวันนี้ เราก็ยังไม่ได้คำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สะใภ้เรา เค้าปวดหัวไปหาหมอที่โรงพยาบาล แต่หมอกลับบอกว่าไม่เป็นอะไร ไม่ได้เป็นไมเกรน แค่จ่ายยามาให้กินสามตัวแล้วก็บอกว่าให้กลับไปนอน แล้วก็ไม่ได้ทำนัดให้มาfollow upอาการด้วย”
โดยเธอยังโพสต์อีกว่า ตอนนี้ ครอบครัว อยากให้ทางโรงพยาบาลออกมาชี้เเจงในสิ่งที่เกิดขึ้น
“เราขอให้ทุกคนซื่อสัตย์กับร่างกายและความเจ็บปวดของตัวเอง อย่าเพิ่งเชื่อใจ วางใจ กับคำตัดสินของหมอเพียงคนเดียว
ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์แบบที่ไม่มีวันย้อนกลับมาแก้ไขได้อีก”
อีจันขอแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยนะคะ