หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพบั้งไฟร่วงใส่หลังคาบ้าน พร้อมข้อความว่า “เข้าใจนะครับว่ามันคือประเพณี แต่ถ้าเกิดมันตกใส่หัวประชาชนหรือว่าหัวของคนในบ้านผมใครจะรับผิดชอบครับ นี่ยังถือว่าโชคดีที่ตกใส่แค่หลังคาบ้าน” จนเกิดกระแสวิพากวิจารณ์กันใหญ่
วันนี้ (23 พ.ค.67) ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่หมู่ 6 ต.โคกปีบ อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี เพื่อตรวจสอบ พบว่าบริเวณดังกล่าวมีบ้านทั้งหมด 6 หลัง บ้านที่บั้งไฟตกใส่หลังคาบ้านนั้นเป็นบ้านเลขที่ 324/4 และ 324/5 เป็นบ้านที่อยู่ติดกันโดยบ้านเลขที่ 324/4 พบบั้งไฟที่ทำการจุดแล้วตกใส่หลังคาบ้านแต่ไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนบ้านเลขที่ 324/5 พบเพียงไม้หรือหางบั้งไฟตกอยู่บริเวณข้างรั้วบ้าน
จากการสอบถามนางจิราภรณ์ อายุ 67 ปี คนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พ.ค.67 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 5 โมงเย็น ขณะนั้นมีการจัดประเพณีบุญบั้งไฟขึ้น โดยจุดที่จัดการแข่งขันบั้งไฟ ห่างจากบ้านที่บั้งไฟตกใส่ประมาณ 1 กิโลเมตร ตอนนั้นตนนั่งกินขนมจีนอยู่บริเวณหน้าบ้าน ได้ยินเสียงระเบิดดังตู้ม เข้าใจว่าแอร์ข้างบ้านระเบิดจึงตะโกนเรียกหลาน และวิ่งออกไปดูบริเวณข้างบ้านก็พบหัวบั้งไฟอยู่บริเวณหลังคา สวนหางของบั้งไฟอยู่บริเวณข้างบ้านใกล้กับแอร์ตน
หลานสาวจึงวิ่งไปบอกพ่อว่ามีของขวัญจากท้องฟ้าให้พ่อมาดู พอลูกชายมาดูก็ได้ถ่ายคลิปและภาพไว้ ไม่นานบั้งไฟลูกที่ 2 ก็ตกลงมาซ้ำ แต่เดชะบุญจังหวะนั้นมีลมพัดกรรโชกจึงทำให้ปั้งไฟลูกที่ 2 ลอยเลยบ้านทั้ง 6 หลังไป
นางจิราภรณ์ เล่าต่อว่า ลูกแรกตกใจนิดหน่อย แต่พอลูก 2 ก็เริ่มกลัว ตนอาศัยอยู่บ้านหลังนี้ 3-4 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าของบั้งไฟก็ไม่ได้เดินทางมาดูที่บ้านของตน มีเพียงเจ้าของโครงการหมู่บ้านเข้ามาตรวจสอบ โดยตนเชื่อว่าจะได้รับโชคจากบั้งไฟที่ตกใส่บ้านในครั้งนี้ ซึ่งจากนี้จะนำเลขที่บ้านไปซื้อลอตเตอรีเสี่ยงดวงต่อไป
ขวัญเอยขวัญมา โชคดีนะคะที่ไม่มีใครเป็นอะไร ใครจะจุดบั้งไฟก็ระวังกันด้วยนะ แล้วอย่าลืมขออนุญาตให้ถูกต้องด้วยล่ะ ไม่อย่างนั้นเจอทั้งจำและปรับเลยนะ
คลิปอีจันแนะนำ
ไฟไหม้กุฏิวัดสวนแก้ว 3 เด็กชายถูกไฟคลอกดับสลด