“เฟซบุ๊ก”คลี่คดีฆ่าโหดทุบหัวลุงทิ้งป่าอำพรางคดี

ตำรวจสืบจากเฟซบุ๊ก! คลี่คดีฆาตกรรมโหด ถอดเสื้อเหลือแต่กางใน มัดมือ มัดเท้า มัดปาก อำพรางคดี

กรณีนายจิตรพัฒน์ สัตยาพันธ์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 888 / 24 หมู่บ้านอยู่สบาย หมู่ 1 ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้ไม้ตีเสียชีวิตแล้วถอดเสื้อเหลือแต่กางเกงใน และมัดมือมัดเท้ามัดปากนำมาทิ้งบริเวณป่าริมถนนสาย 331 ซึ่งทรัพย์สินของนายจิตรพัฒน์สูญหายไปประกอบด้วยอาวุธปืนลูกซองยาวเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


เหตุเกิดกลางดึกของคืนวันที่ 29 ต.ค.61 หลังรับแจ้งเหตุ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี สั่งการให้ชุดสืบสวนของ บก.ภ.จว.ชลบุรี และ สภ.คลองกิ่ว เร่งรัดคลี่คลายคดีโดยชุดสืบสวนพบข้อมูลเบื้องต้นว่านายจิตรพัฒน์ ทำหน้าที่ดูแลโรงเหล็กเก่าของบริษัทแห่งหนึ่ง


ก่อนเกิดเหตุในช่วงกลางคืนนายจิตรพัฒน์ ได้ยินเสียงสุนัขเห่าหอนภายในโรงเหล็กเก่าจึงออกมาตรวจดูพร้อมอาวุธปืนเพื่อปกป้องทรัพย์สิน แต่พบคนร้ายกำลังลักทรัพย์จึงใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ สุดท้ายนายจิตรพัฒน์ ถูกพบเป็นศพในป่าข้างทาง

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


การสืบสวนติดตามตัวคนร้ายโดยชุดสืบสวนใช้วิธีเดินเท้าหาเบาะแสเพิ่มเติมในบริเวณที่เกิดเหตุและใกล้ที่เกิดเหตุจนพบนายชูชีพ เนื่องจำนงค์ หรือชีพ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นอดีตคนงานของโรงเหล็กเก่าแสดงท่าทีเป็นพิรุธ อีกทั้งมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ทำให้ชุดสืบสวนเชิญตัวมาเพื่อขอตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติด ก่อนเค้นสอบถามถึงคดีฆาตกรรมนายจิตรพัฒน์


นายชูชีพ ยอมรับว่าในวันเกิดเหตุเป็นคนดูต้นทางให้พรรคพวกคือนายการุณย์ อุรักษ์ หรือตูน อายุ 35 ปี , นายนราศักดิ์ ป้องบุญจันทร์ หรืออ้วน อายุ 31 ปี , นายอาคม สาลีผล หรือจุก อายุ 35 ปี และนายอดิเรก อุรักษ์ หรือเหรก อายุ 33 ปี

ภาพจากอีจัน


คำสารภาพของนายชูชีพ ยังไม่เพียงพอต่อการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลพิจารณาหมายจับคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุ ทำให้ชุดสืบสวนต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมโดยเชิญตัวคนใกล้ชิด(ขอสงวนชื่อนามสกุล) ของนายการุณย์ หรือตูน ซักถามในประเด็นที่สงสัยและพฤติกรรมของนายการุณย์หลายชั่วโมง


ระหว่างซักถามคนใกล้ชิดของนายการุณย์ ได้เปิดภาพข้อความทางเฟชบุ๊กให้ชุดสืบสวนดูพบภาพนิ่งและวิดีโอคลิปที่นายการุณย์ส่งมาเป็นภาพที่นายนราศักดิ์ หรืออ้วน ยิงอาวุธปืนลูกซองยาว โดยนายการุณย์ เป็นผู้บันทึกภาพและส่งข้อความ


ภาพจากเฟชบุ๊กคือหลักฐานสำคัญทำให้ชุดสืบสวนสำเนาภาพนำไปให้กับภรรยาของนายจิตรพัฒน์ พิจารณาว่าเป็นทรัพย์สินของสามีหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่าอาวุธปืนลูกซองยาวเป็นของสามีที่หายไป

ภาพจากอีจัน


ชุดสืบสวนจึงเร่งตรวจสอบฐานข้อมูลของผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนคือนายการุณย์ และนายนราศักดิ์ พบว่าไม่เคยมีประวัติครอบครองอาวุธปืน จึงรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลทั้งหมดให้พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อพิจารณาหมายจับคนร้ายที่ก่อเหตุทั้งหมดก่อนที่ชุดสืบสวนติดตามจับกุม


พล.ต.ต.นันทชาติ เปิดเผยว่า เบื้องต้นการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าต้องการเข้าไปลักทรัพย์สินภายในโรงเหล็กเก่าเพื่อนำไปขายแล้วซื้อยาบ้ามาเสพ โดยในวันเกิดเหตุนายจิตรพัฒน์ ได้ยินเสียงผิดปกติจึงนำอาวุธปืนออกไปตรวจสอบพบคนร้ายกำลังลักทรัพย์เหล็กภายในโรงงาน จึงใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ คนร้ายวิ่งหนีเข้าไปในป่าข้างทาง ระหว่างที่นายจิตรพัฒน์ กำลังตรวจสอบนายการุณย์ ซุ่มอยู่ในป่าข้างทางใช้ไม้ตีนายจิตรพัฒน์บริเวณท้ายทอย โดยนายนราศักดิ์ ร่วมกันทำร้ายและเอาปืนลูกซองยาวไป ส่วนนายอาคม ร่วมกันย้ายร่างของผู้เสียชีวิตและเอาปืนพกสั้นไป ส่วนนายอดิเรก ทำหน้าที่มัดมือมัดเท้าผู้เสียชีวิต