ร้อง! ปคม. ถูกหลอกโอนเงินแลกทำงานไต้หวัน สุดท้ายโดนเท

กลุ่มผู้เสียหาย แจ้งความ ปคม. หลังถูกหลอกโอนเงินเพื่อไปทำงานไต้หวัน สุดท้ายโดนเท เผยมีพระสงฆ์เอี่ยวด้วย

วันนี้ (5 ม.ค. 67) นายธมะนันท์ แตงทิม หรือ จ่าคิงส์ พาผู้เสียหาย ถูกหลอกไปทำงานไต้หวัน สูญเงินรวมกว่า 2.6 ล้านบาท เดินทางมาแจ้งความ ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง

จ่าคิงส์ เผยว่า ผู้เสียหายที่เดินทางมาแจ้งความในวันนี้มีทั่วประเทศ ซึ่งส่วนนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง เนื่องจากผู้เสียหายเหล่านี้อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยการไปทำงานต่างประเทศ โดยได้สมัครไปกับบริษัทแห่งหนึ่ง แต่ปรากฏว่าถูกหลอก ซึ่งผู้เสียหายบางคนน่าสงสารถึงขนาด เอาที่ดินไปจำนอง ขายวัว ขายควาย เพื่อมาเงินมาจ่ายให้บริษัทแห่งนี้

หนึ่งในผู้เสียหาย เผยว่า ตนได้รู้จักบริษัทนี้จากการเฟซบุ๊ก หลังจากนั้นจึงทักไปสอบถามว่าถ้าไปกับแฟนมีค่าใช้จ่ายยังไง โดยพฤติกรรมของบริษัทนี้ก็จะสอบถามน้ำหนักส่วนสูง เพื่อดูว่าเหมาะกับโรงงานแบบไหน โดยแรงงานขั้นต่ำ 26,400 เหรียญไต้หวัน หรือประมาณ 30,000 บาท/เดือน

โดยจะต้องผ่านการตรวจโรคในโรงพยาบาล พอตรวจโรคผ่าน บริษัทก็จะให้โอนเงินผ่านบัญชีส่วนตัวจำนวน 30,600 บาท/คน แต่แฟนมีคดีติดตัวจึงต้องจ่ายค่าดึงคดีอีก 30,000 บาท แต่พอโอนไปก็ยังมีการเรียกเก็บเพิ่มอีก 15,000 บาท โดยอ้างว่าฝั่งบอสใหญ่ของประเทศไต้หวันของพิเศษมา

ผู้เสียหายยังเล่าอีกว่า ระหว่างนั้นก็ติดต่อกับบริษัทนี้มาตลอดถามไถ่ตลอดเมื่อไหร่จะได้ทำวีซ่า แต่บริษัทก็บ่ายเบี่ยงเลื่อนมาเรื่อยๆ บอกว่าจะได้บินช่วงปลายปี

จนวันนึงมีผู้เสียหายที่เป็นเหยื่อเหมือนกัน โทรมาบอกว่าบริษัทนี้หลอกลวงบางคนรอมาเป็นปีๆ แล้วยังไม่ได้ไปทำงานเลย ตนจึงติดต่อไปที่บริษัทเพื่อขอเงินคืนแต่บริษัทก็บ่ายเบี่ยงเลื่อนคืนเงินไปเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ทำงานก็ไม่ได้ทำ เงินก็ไม่ได้คืน

นอกจากนี้ ผู้เสียหายบางคน เล่าว่า ได้คุยกับพระรูปหนึ่งอ้างว่าเป็นทีมงานที่อยู่ในบริษัทนี้ คอยจัดการดูแลคนไปทำงานที่ไต้หวัน ซึ่งตนได้ไปเจอพระรูปนี้ที่บริษัทดังกล่าวในวันที่ขอเคลียร์เงินคืน แต่สุดท้ายบางก็ได้เงินคืนบางส่วน บางคนก็ไม่ได้เงินคืนเลย

“อยากจะฝากว่าอย่าไปหลอกเขาอีกเลย พอได้แล้ว ไม่รู้ว่าพวกคุณเอาเงินพวกเราไปไหนบ้าง เอาเงินมาคืนพวกเราเถอะ บางคนเขาต้องขายรถขายบ้าน ติดหนี้ติดสิน ลาออกออกจากงานเพราะว่าคุณหลอกเค้าว่าจะได้ไปทำงานที่นั่น” ผู้เสียหายกล่าว

จ่าคิงส์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ขอฝากถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศให้ระวังให้ดี ถ้าอยากจะไปทำงานในต่างประเทศเพื่อที่จะลืมตาอ้าปากได้ ก็ขอไปติดต่อกับกรมแรงงานดีกว่า ได้ไปแน่นอน จะได้ไม่ต้องถูกหลิกเสียเงินเสียทอง”

ทั้งนี้ ฝากไปถึงรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานตรวจสอบบริษัทดังกล่าว ว่ามีจริงหรือไม่ และการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่