คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดเก่าที่ทำคดีรีดทรัพย์ 140 ล้านบาท จากกลุ่มเว็บพนันออนไลน์ หรือคดี “เป้รักผู้การเท่าไหร่” ซึ่งประกอบด้วยพลตำรวจตรีนำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์, พันตำรวจเอกเขมรินทร์ พิศมัย, พันตำรวจเอกภาคภูมิ พิศมัย และพันตำรวจเอกปรเมษฐ์ (สงวนนามสกุล) เข้าให้ปากคำในฐานะพยาน กับคณะพนักงานสอบสวนชุดใหม่ที่นำโดยนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และพลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
โดยบ่ายวันนี้ (3 เม.ย.67) นายวัชรินทร์ เปิดเผยว่า คณะทำงานชุดใหม่ต้องการรวบรวมพยานหลักฐานและรับฟังข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม และการเรียกคณะทำงานชุดเดิมมาสอบในวันนี้ เพื่อต้องการรับฟังข้อเท็จจริงจากปากคณะทำงานชุดเดิม โดยเฉพาะประเด็นกระบวนการสืบสวนสอบสวนทั้งหมด และเส้นทางการเงิน หรือหากคณะทำงานชุดเดิมต้องการให้ข้อเท็จจริงใดเพิ่มเติม ก็จะรับฟังทั้งหมด
ซึ่งคณะทำงานชุดใหม่ได้เรียกสอบคณะทำงานชุดเดิมทั้งสิ้น 6 นาย แบ่งเป็นเดินทางมาในวันนี้ 4 นาย ส่วนอีก 2 นาย นัดหมายจะเข้าให้ปากคำในวันอังคารที่ 9 เม.ย.67 ซึ่งถือเป็นพยานล็อตสุดท้ายที่จะสอบปากคำ หลังจากนั้นคณะทำงานชุดใหม่นี้ก็จะนัดประชุมใหญ่เพื่อสรุปสำนวนส่งฟ้องคดีให้แล้วเสร็จภายใน พ.ค.67
เบื้องต้นคดีนี้ มีผู้ต้องหาทั้งสิ้น 33 คน และหลบหนี 1 คน คือ นายต้น ตัวการผู้สนับสนุนให้กระทำความผิดทั้งหมด ทั้งการเรียกรับ การกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือการวางแผนต่างๆ โดยหากหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศจริง ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานตำรวจสากลออกหมายน้ำเงินเพื่อติดตามจับกุมตัวกลับมาดำเนินคดี
ส่วนจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการให้การของคณะทำงานชุดเดิมในวันนี้ด้วยว่า จะมีการให้การเชื่อมโยงถึงบุคคลใดเพิ่มเติมหรือไม่ หากพบว่าใครเข้าข่ายความผิดเพิ่มเติม ก็จะดำเนินคดีทั้งหมด พร้อมยืนยันคดีไม่ล่าช้าแน่นอน
นอกจากนี้ อาจมีสังคมหรือสื่อมวลชนบางส่วนตั้งข้อสงสัยว่า การที่เรียกคณะทำงานชุดเดิม ซึ่งเป็นคนสนิทของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” มาให้ปากคำในวันนี้ จะเกี่ยวข้องกับที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ถูกออกหมายจับเมื่อวานนี้หรือไม่ ทางนายวัชรินทร์ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะเป็นการเรียกมาให้ปากคำมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีการออกหมายจับ
ด้านพลตำรวจตรีนำเกียรติ คณะทำงานชุดเดิมที่ถูกเรียกมาให้ปากคำ ก็กล่าวว่า เป็นการมาตามนัดที่คณะทำงานชุดใหม่ขอให้มาพบ แต่ประเด็นที่จะให้ข้อมูลยังไม่ทราบรายละเอียด ขึ้นอยู่กับคณะทำงานจะสอบถาม
ส่วนที่นายบอย พัทยา หนึ่งในผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคณะทำงานชุดเดิม มีการบังคับชี้นำในการสอบสวนนั้น ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของคณะทำงานชุดนี้ที่จะดำเนินการ หากพบว่าพวกของตนเองทำผิด พร้อมยืนยันว่าไม่หนักใจ เพราะไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา
ขณะที่พันตำรวจเอกเขมรินทร์ ก็บอกว่าพร้อมให้ข้อมูล และมองว่าการให้ปากคำในฐานะพยานครั้งนี้เป็นขั้นตอนปกติของการส่งมอบสำนวนระหว่างคณะทำงานชุดเดิมและคณะทำงานชุดใหม่
อย่างไรก็ตามหากมีความเคลื่อนไหว ‘อีจัน’ จะอัปเดตให้ทราบ
คลิปอีจันแนะนำ
ย้อนคดีฉาวตำรวจ บิ๊กโจ๊ก สาวไส้ ผู้การชลบุรี ไถเงินเว็บพนัน 140 ล้าน