เป็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจ กรณีที่ “นายทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าหลักเกณฑ์พักโทษของกรมราชทัณฑ์ และจะได้รับการปล่อยตัวพักโทษ ในวันที่ 18 ก.พ.67
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ความคืบหน้าเกี่ยวกับการพักโทษ ของ นายทักษิณ ชินวัตร วันนี้ (17 ก.พ.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวระดับสูง จากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาราชทัณฑ์ไม่เคยปล่อยตัวผู้ต้องหายามวิกาล ซึ่ง กรณีของ “นายทักษิณ” สามารถรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจต่อได้ หากสุขภาพไม่เอื้ออำนวยในการขยับหรือเคลื่อนย้าย
ส่วนเบื้องต้นหลักการปล่อยตัวผู้ต้องขังสูงวัยและมีอาการเจ็บป่วยออกจากสถานที่คุมขัง หากดูในกรณีของอดีตนายกรัฐมนตรี ที่นอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำ รพ.ตำรวจ เกินกว่า 120 วันจนถึงวันที่มีเงื่อนไขคุณสมบัติผ่านเข้าโครงการพักการลงโทษ กรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรงหรือพิการ หรือสูงอายุ ทางราชทัณฑ์ โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อาจเป็น ผบ.เรือนจำฯ หรือเจ้าพนักงานเรือนจำที่ได้รับมอบหมาย จะต้องเป็นผู้เดินทางไปพบผู้ได้รับการพักโทษ พร้อมกับนำเอาเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพักโทษให้เจ้าตัวเซ็นลายมือชื่อ
ส่วนการที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะต้องพูดคุยกับแพทย์ รพ.ตำรวจ ผู้ทำการรักษาว่านายทักษิณมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเพียงพอต่อการปล่อยตัวออกจากสถานพยาบาลหรือไม่นั้น เนื่องด้วยนายทักษิณ ถือว่าครบวันบริหารโทษและได้เข้าสู่กระบวนการพักโทษแล้ว อีกทั้งระดับชั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็อนุมัติรับทราบให้ปล่อยตัวพักโทษ เมื่อถึงวันพักโทษ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก็ไม่สามารถคุมตัวไว้ได้อีกต่อไป
นอกจากนี้ ในกรณีที่นายทักษิณมีอายุ 74 ปี และเจ็บป่วยก็เป็นสาเหตุสำคัญให้กรมคุมประพฤติไม่ต้องติดกำไล EM ส่วนกระบวนการเกี่ยวกับการคุมประพฤติระหว่างพักโทษ อาทิ ข้อกำหนด ข้อห้ามการกระทำ หรือเงื่อนไขการรายงานตัวต่าง ๆ หลังจากนี้ก็ค่อยดำเนินการในภายหลังได้ โดยเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจะมีเวลา 3 วันในการเดินทางเข้าพบผู้ได้รับการพักโทษ นับแต่วันที่ได้พักโทษ
อย่างไรก็ตาม กระบวนการปล่อยตัวพักโทษ ตามกฎหมายแล้ว เวลาเที่ยงคืนที่กำลังเข้าสู่วันพักโทษ หรือ เวลา 00.00 น. วันที่ 18 ก.พ. ก็ถือว่าเจ้าตัวได้รับการพักโทษแล้ว แต่ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ไม่เคยมีการปล่อยตัวผู้ต้องขังยามวิกาล และการปล่อยตัวจะต้องมีขั้นตอนของเอกสารต่าง ๆ ระหว่างเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และผู้ต้องขัง และส่วนใหญ่จะทำในเวลาทำการปกติ เช่น เวลา 06.00 น. หรือเวลา 08.00 น. หรือบางเรือนจำอาจปล่อยตัวในช่วงเวลา 13.00 น. ซึ่งขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละเรือนจำ