ศาลากลางโคราช เดือด! ชัยวัฒน์ ปะทะ ส.ป.ก.โคราช ปม รุกป่าเขาใหญ่ ลั่น! “ผมอยากมีเรื่อง”

ชัยวัฒน์ ปะทะ ส.ป.ก.โคราช เดือดกลางห้องประชุมศาลากลางโคราช ปม ส.ป.ก. รุกป่าอุทยานฯเขาใหญ่ กว่า 900 ไร่ ลั่น! “ผมอยากมีเรื่อง”

พญาเสือคำราม!!! คนใจทรามกล้าฮุบป่าเขาใหญ่ ใครจะยอม?
หมุดส.ป.ก.นิรนามผุดในเขตอุทยานเขาใหญ่

เรื่องเริ่มจากพบการเปิดป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แหล่งมรดกโลก โดยวันที่ 6 ม.ค. 67 เจ้าหน้าที่อุทยานฯเขาใหญ่ตรวจพบพื้นที่บุกรุกแผ้วถางป่าประมาณ 3 ไร่ กำลังปรับดินปลูกต้นมะม่วง 22 ตรวจสอบพื้นที่เจอหลักหมุด ส.ป.ก. 3 หมุด แต่ไม่พบคนกระทำผิด เจ้าหน้าที่จึงติดกล้องดักสักสัตว์จับภาพเคลื่อนไหวปรากฏว่า 3 วันต่อมา มีคน 5 คน เข้ามารดน้ำต้นมะม่วง จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ชายทั้ง 5 อ้างว่าที่ดินนี้ได้มาถูกต้องตามกฎหมายเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ซึ่ง 1 ในนั้น แสดงตัวเป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อุทยานงงมากว่า อยู่มี หมุดของ ส.ป.ก. มาปักในเขตอุทยานได้อย่างไร

ขณะเดียวกัน ก็มีการสอบถามจากนายกิติศักดิ์ พรหมพินิจ ผู้ใหญ่บ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ส.ป.ก. จะประกาศชื่อ ผู้มีสิทธิ์ได้ที่ทำกินในเขต ส.ป.ก. จำนวน 3 ชื่อ ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่ใช่คนในหมู่บ้าน ไม่รู้เป็นใครมาจากไหน จึงมาสอบถามที่อุทยานเขาใหญ่ ทางอุทยานก็ไม่ทราบ จึงไปหาข้อมูลที่ ส.ป.ก.โคราช ปรากฏว่า ก็ไม่มีความชัดเจนว่า 3 คนที่ประกาศเป็นใคร และจะได้ที่ดินตรงไหน ทำผู้ใหญ่บ้านก็งงเป็นไก่ตาแตกไป ต่อมา มีคนแอบบประกาศ ชื่อ ผู้มีสิทธิ์ในที่ดิน ส.ป.ก. อีกฉบับ แต่คราวนี้ ประกาศชื่อ เดิม คือ 3 คน ที่ผู้ใหญ่บ้านไม่รู้จัก และมีชื่อเพิ่ม มาอีก 2 คน ก็ไม่รู้จักเช่นกัน ประกาศนี้ทางผู้ใหญ่ ผู้ช่วย กำนัน ไม่มีใครเห็น ผ่านไป 30 วัน จึงไม่มีคนคัดค้าน ตามกฎหมายแปลว่า ออก ส.ป.ก.ได้ ปรากฏว่า เกิดมีหมุด ส.ป.ก. มาปักในเขตอุทยานฯเขาใหญ่เพิ่มอีก หัวหน้าอุทยานฯเขาใหญ่ ได้ทำหนังสือสอบถามไปยัง ส.ป.ก.โคราช ว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร ก็ไม่มีคำตอบ

เรื่องนี้จึงร้อนถึงพญาเสือ ส่งทีมมาเกือบร้อยนาย เดินปูพรมเข้า ตรวจสอบก็พบ มีหมุดของ ส.ป.ก.มาปักในเขตอุทยานฯเขาใหญ่ถึง 27 หมุด และยังมีป้าย มาประกาศแสดงความเป็นเจ้าของ มีรูป เอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. ชัดเจน มีชื่อ เจ้าของสิทธิ์ และ ชื่อ เจ้าหน้าที่ลงนามชัดเจนด้วย นายชัยวัฒน์ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่รื้อถอนหลักหมุดเขต ส.ป.ก 27 หมุด เสาหลักเขต จำนวน 5 ต้น และ รื้อถอนต้นมะม่วงที่เพิ่งปลูก จำนวน 20 ต้น พร้อมทำบันทึกการตรวจยึด แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อสืบสวนสอบสวนและนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ทั้งนี้ตลอดเส้นทางที่เดินถอนหมุด ส.ป.ก. ก็พบ ร่องรอยของช้าง และกระทิงตลอดทาง เป็นเหตุให้ยิ่งสงสัยว่า จะมีใครกล้ามาทำกินในพื้นที่นี้ได้

ขณะเดียวกัน ทีมพญาเสือ ได้ตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์ของสำนักจัดการแผนที่และสารบบที่ดิน พบว่ามีการกำหนดพื้นที่สำหรับการปฏิรูปที่ดิน (เส้นสีเขียวที่ตีผังในแผนที่) มากถึง 2,933 ไร่ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แน่แล้ว มีการตีเป็นรูปแปลงเพื่อออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ถึง 42 แปลง เนื้อที่ประมาณ 972 ไร่ และยังพบรายชื่อบุคคลผู้ได้รับคัดเลือกให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) พบว่าไม่ใช่ผู้ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก ซึ่งไม่เข้าข่ายการเป็นเกษตรกร จึงสอบถามไป ส.ป.ก. จ.นครราชสีมา อีกครั้ง แต่…ก็ไม่ได้คำตอบเช่นเดิม

เรื่องมาสุด ในบ่ายของวันที่ 13 ก.พ. 67 นายชัยวัฒน์ เข้าไปฉะ ส.ป.ก.โคราช กลางที่ประชุม ณ ศาลากลาง จ.นครราชสีมา ถามชัดๆ ถึงเหตุที่ มี หมุด ส.ป.ก. มาโผล่ในพื้นที่อุทยานฯเขาใหญ่ โดยไม่มาสอบถาม ใด ถามไปก็ไม่ตอบ ไปเอาคนไหนมาถือสิทธิ์ในเขตป่า พร้อมโชว์แผนที่ตีแปลงสีเขียวทับเขตป่าสมบูรณ์ให้ดูกันชัดๆ ซึ่ง ทางจีรศักดิ์ นายช่างรังวัด ก็พยายามอธิบายว่า มันเป็นมติของ ครม.ให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินให้เกษตรกร โดยส.ป.ก. เป็นผู้ดำเนินการ แต่ก็ตอบไม่ได้ว่า หมุดที่นายชัยวัฒน์ ถอนมานั้น ช่างคนไหนไปปัก ปัก ณ จุดใด รุกป่าหรือไม่ ขอสอบสวนก่อน

ด้าน นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นประธาน ก็พยายามหาทางออกให้ตั้งกรรมการชุดเล็กตรวจสอบเรื่องนี้ และขอให้ ส.ป.ก.ยุติการทำงานชั่วคราวจนกว่าความจริงจะปรากฏ แต่นายชัยวัฒน์ ประกาศไม่รอ บอกตนแจ้ง ป.ป.ช. เรียบร้อยแล้ว ให้ทาง ส.ป.ก.โคราช ไปชี้แจงที่ศาลแล้วกัน การประชุมเหมือน ได้ดูมวยคู่ดุเดือด ชัยวัฒน์ ชกซ้าย ส.ป.ก.โคราช หลบขวา เด้งเชือกด้วย โดยมี รอง ผู้ว่าฯ เป็นกรรมการบนเวที คอยห้าม ถกกันนานเกือบชั่วโมง ก็ได้ข้อสรุปว่า “ให้ ส.ป.ก. จ.นครราชสีมา หยุดกระทำการใดๆ ในบริเวณพื้นที่พิพาท และให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน” ขณะเดียวกัน การสอบสวนของ ปปช.ก็ดำเนินไปคู่ขนานด้วยความจริงจะได้ปรากฏเร็ว

ฝากถึง รมว.ก.เกษตรและสหกรณ์
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับอีจันว่า ขอฝากถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ หรือผู้บริหารของกระทรวงฯ ว่าตามนโยบายการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด หากเป็นเกษตรผู้ที่ได้ทำกินและประกอบอาชีพเกษตรกรจริงก็ไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด แต่หากเป็นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ซึ่งมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินของราษฎร ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 64 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 121 อยู่แล้ว ตามเงื่อนไขที่กรมฯ กำหนด แต่ในขณะนี้กลับพบการออกผังแปลง ส.ป.ก. ภายในเขตป่าอนุรักษ์ที่มีสภาพป่าสมบูรณ์ ไม่มีบุคคลใดเข้าไปใช้ประโยชน์ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าในหลายพื้นที่ จึงขอให้ผู้บริหารของทั้งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้กำหนดนโยบายในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจน ในประเด็นการประกาศกำหนดเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์และการกำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน โดยในเรื่องนี้อาจมองได้ 2 มุม คือ การเข้าใจกันผิดพลาด หรือเป็นการกระทำโดยทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐเองในการออกเอกสาร ส.ป.ก. ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์
และขอให้ผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ได้ตรวจสอบการดำเนินงานของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ที่ดำเนินการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่าเป็นการกระทำโดยทุจริตของเจ้าหน้าที่หรือไม่? ต้องหาความจริงมาให้ได้

เรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อ กลิ่นตุๆ ลอยไปลอยมา อีจันคงต้องตามกลิ่นจนเจอที่มา งานนี้น่าจะพาไปเจอทั้งขบวนการ ติดตามกันต่อไปครับ ว่า ใคร รุก ใคร ฮุบ งานนี้ต้องมีคำตอบ ส.ป.ก. ผุด? เป็นฝีมือใคร? มีไอ้โม่งอยู่เบื้องหลังหรือไม่?


คลิปอีจันแนะนำ

ชัยวัฒน์ เดือด! ส.ป.ก.โคราช ออก ส.ป.ก. 4-01 รุกที่ดิน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่