“แม่ทัพภาค 2” ขู่ปิด “ตาเมือนธม” 7 วัน 

“แม่ทัพภาคที่ 2” ขู่ปิด “ปราสาทตาเมือนธม” 7 วัน หลัง “กัมพูชา” ส่งป้ามหาภัย-กลุ่มฮาร์ดคอร์ บุกป่วนวุ่น – จ่อใช้รถไถลาดตระเวนแทน ยัน ไม่เอาลูกน้องไปเสี่ยงชีวิต

เมื่อพูดคุยดี ๆ แล้วไม่ได้รับความร่วมมือ ก็จำเป็นต้องใช้อำนาจเด็ดขาด..

วันนี้ (22 ก.ค. 68) เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว เปิดเผยบทสัมภาษณ์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ภายหลังรับมอบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน จากกลุ่มมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน และกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ที่นำไปมอบให้ทหารในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมกล่าวขู่ปิดการเยี่ยมชม “ปราสาทตาเมือนธม” หลังกลุ่มฮาร์ดคอร์-ป้ามหาภัย จากกัมพูชา เข้ามาปั่นป่วนสร้างความวุ่นวาย

โดย พล.ท.บุญสิน กล่าวถึงกรณีสร้างรั้วกั้นชายแดนในบางจุดหากจำเป็น ว่า ในพื้นที่กลุ่มปราสาทตาเมือน กัมพูชาไม่ยอมรับว่าเป็นของไทย ตอนนี้ทั้ง 2 ประเทศคุยกันคนละเรื่อง หากจะทำรั้ว ต้องยิงกันยึดพื้นที่กันให้ได้ ไม่อย่างนั้น จะเกิดแรงเสียดทานจากกลุ่มมวลชน แม้เราจะยืนยันว่าเป็นของไทย แต่เขาไม่ยอมรับ นี่คือปัญหาที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน 

ขณะที่การจัดระเบียบการท่องเที่ยว พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า นักท่องเที่ยวทุกชาติสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของไทย หากมีการก่อกวน หรือมีเรื่องชกต่อย จะสั่งปิดปราสาททันที 1 สัปดาห์ เพื่อจัดระเบียบใหม่ และขณะนี้มีตำรวจภูธรภาค 3 มาสนับสนุนกองร้อยควบคุมฝูงชน และเจ้าหน้าที่ทหารพรานเข้ามาช่วยในพื้นที่ และคัดกรองอาวุธต่างๆ ก่อนเข้าไปยังตัวปราสาท พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้มีแผนรองรับและแผนเผชิญเหตุอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันยังมองในแง่ดีว่าไม่มีเหตุการณ์อะไร 

พล.ท.บุญสิน กล่าวต่อ ทางกัมพูชาขอไม่ให้เราปิดปราสาท ตนได้พูดคุยกับทาง พล.ต.เนี๊ยะ วงศ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 42 ของกัมพูชา เน้นย้ำ ว่าต้องควบคุมคนของตัวเองให้ได้ หากคุมไม่ได้ก็จะปิดปราสาท หรือเข้ามาป่วนทำอะไรที่น่าเกลียด แสดงเชิงสัญญลักษณ์ ถือว่าคุมคนของตัวเองไม่ได้ ตนจะปิดเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย และย้ำไปว่า ให้กัมพูชาคัดกรองนักท่องเที่ยว เช่น ป้ามหาภัย กลุ่มฮาร์ดคอร์ ไม่อยากให้ขึ้นมา โดยจำกัดนักท่องเที่ยวไม่เกินวันละ 100 คน 

พล.ท.บุญสิน กล่าวยืนยันว่า กองทัพไม่นิ่งเฉย แต่การเมืองก็ว่ากันไป แต่เราดูในเรื่องความมั่นคง กรณีที่ทหารเหยียบกับระเบิดก็เป็นอีกกรณีที่จะต้องเข้าไปแก้ไขปัญหา แม้ว่าทางกัมพูชาจะออกมายืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้วางทุ่นระเบิด แต่เราก็รู้ดีว่าประเทศเพื่อนบ้านเราเป็นอย่างไร เขาก็พยายามดิ้นให้หลุด เพราะหากกระทรวงการต่างประเทศของไทยเดินหน้าเรื่องนี้เต็มที่ ก็จะสร้างความเสียหายกับศักดิ์ศรีของประเทศกัมพูชาเช่นกัน จึงเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่ต้องดำเนินการ แต่ในส่วนของทหารก็ได้ดำเนินการประท้วงไปแล้ว  

หลังจากนี้ จะไม่ใช้การเดินลาดตระเวนแบบเก่า ไม่เอาลูกน้องไปเสี่ยง แต่จะใช้รถไถ หากเหยียบระเบิด ก็ให้ระเบิดไป และจะดำเนินการตรวจสอบพื้นที่อื่นๆ ด้วยว่ามีอีกหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีมาตรการที่เราจะดำเนินการต่อไป ที่จะประท้วงให้ประชาคมโลก ได้ตำหนิและวิจารณ์กับประเทศที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา และตระบัดสัตย์ข้อตกลงทำร่วมกันไว้ 

พล.ท.บุญสิน กล่าวอีกว่า สำหรับการขอความร่วมมือประเทศลาวกดดันกัมพูชาเรื่องการตัดท่อน้ำเลี้ยง เช่น น้ำมัน ยุทธภัณฑ์ที่จำเป็นทางด้านทหารนั้นเป็นเรื่องของรัฐบาล ซึ่งได้หารือและแจ้งไปยังหน่วยเหนือให้ร่วมกันดูปริมาณที่เคยนำเข้า ถ้ามีมากกว่าเดิม ก็เป็นสิ่งผิดปกติ 

สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยของทหารช่างที่เข้าไปก่อสร้างถนนนั้น พล.ท.บุญสิน ระบุว่า มีชุดรักษาความปลอดภัยในทหารช่างอยู่แล้ว สำหรับแนวสร้างถนน เราไม่ทราบว่ากับระเบิดอยู่ตรงไหนบ้าง แต่จะทำไปตามเส้นเขตแดน เพื่อส่งกำลังบำรุง และนำกำลังเข้าไปลาดตระเวณซึ่งเป็นแนวทางในการสร้างความมั่นคงในพื้นที่ตามแนวชายแดนอย่างดีที่สุด และเร็วที่สุด จะสำเร็จอย่างยั่งยืนหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับผู้นำของสองประเทศ 

ทั้งนี้ พล.ท.บุญสิน กล่าวถึงบุคคลที่จะมารับช่วงเป็นภาคที่ 2 คนต่อไป ระบุว่า ต้องมีบุคลิกเป็นผู้นำ ทำหน้าที่ให้ดียิ่ง และเป็นหลักให้ประเทศชาติ ประชาชน และลูกน้อง ตนเชื่อมั่นว่า ผู้บัญชาการทหารบกจะเลือกคนที่ดี ทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ในขณะที่ตนจะอยู่เบื้องหลัง คอยช่วยงาน ในฐานะพลเมืองที่ดี และมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาในช่วงรอยต่อ 

ขอบคุณข้อมูล : เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว