“วราวุธ” จ่อชง คกก.เคาะเบี้ยผู้สูงอายุถ้วนหน้า 1,000 บาท

“วราวุธ” นั่งหัวโต๊ะ อนุฯ กรรมการขับเคลื่อนสวัสดิการโดยรัฐ เคาะเบี้ย ผู้สูงอายุถ้วนหน้า 1,000 บาท จ่อชง คกก.ชุดใหญ่พิจารณา

วันนี้ (21 ก.พ.67) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนสวัสดิการโดยรัฐ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีการเห็นชอบใน 4 ประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย

1.คือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปีที่อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน ซึ่งตอนแรกการให้เงิน สนับสนุน 600 บาทต่อคนต่อเดือนนั้น จะเป็นไปตามเส้นความยากจน ซึ่งมีประมาณ 4 ล้านกว่าคน ในขณะนี้ ได้รับเงินอุดหนุนอยู่ประมาณ 2 ล้านกว่าคน แต่จากการประชุมในวันนี้ ได้เปลี่ยนวิธีการให้เงินสนับสนุนเป็นแบบถ้วนหน้าเพื่อที่ว่าเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี ทุกคนในประเทศไทย จะได้รับเงินอุดหนุนจำนวนนี้

2.ได้มีการขอให้ปรับศูนย์เลี้ยงดูเด็กและส่งเสริมการพัฒนาเด็ก ให้มีการเลี้ยงดูซึ่งในตอนแรก เป็นเด็กตั้งแต่ 6 เดือน จนถึง 3 ปี ซึ่งตนได้ขอให้ปรับเป็น 3 เดือน จนถึง 3 ปี เพราะจะได้สอดคล้องกับกฎหมายแรงงานที่อนุญาตให้ผู้เป็นแม่สามารถลาคลอดได้ 98 วัน หรือประมาณ 3 เดือนกว่าๆ ก็โดยจะขอให้ศูนย์เลี้ยงดูเด็กได้ตั้งแต่ 3 เดือน จนถึง 3 ปี

3.เรื่องเบี้ยผู้สูงอายุ จากที่ก่อนหน้านี้ มีการจ่ายแบบขั้นบันได คือ 600 บาท  700 บาท  800 บาท และ 1,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจะขอเป็นแบบถ้วนหน้า และจะปรับเป็น 1,000 บาททุกคน ดังนั้น พี่น้องผู้สูงอายุจากเดิมที่ได้แบบขั้นบันไดและไม่ถ้วนหน้า แต่จากนี้ไป จะได้เป็นเดือนละ 1,000 บาทแบบถ้วนหน้า ทั้งนี้ เป็นการเห็นชอบของคณะอนุกรรมการฯ ซึ่งจะต้องนำเสนอเข้าคณะกรรมการใหญ่อีกครั้งหนึ่ง

4.เกี่ยวกับเรื่องเบี้ยความพิการ จาก 800 บาทต่อคนต่อเดือน ปรับเป็น 1,000 บาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ช่วยคนพิการ จากที่เมื่อก่อนได้รับค่าตอบแทนชั่วโมงละ 50 บาท ตอนแรกคณะทำงานเสนอปรับจาก 50 บาท เป็น 80 บาทต่อชั่วโมง ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่าควรจะปรับขึ้นเป็น 100 บาทต่อชั่วโมง รวมถึงการจัดหาอุปกรณ์ให้กับคนพิการทุก ๆ คน

นายวราวุธ กล่าวว่า 4 ประเด็นนี้ เป็นข้อสรุปที่ทางคณะอนุกรรมการได้เห็นชอบเกี่ยวกับการดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก เยาวชน สตรี คนพิการ และผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการเห็นชอบของคณะอนุกรรมการที่ทางคณะทำงานนำเสนอมา ซึ่งขั้นตอนต่อไป คณะอนุกรรมการจะต้องนำเสนอข้อเสนอทั้งหมดที่เห็นชอบเข้าคณะกรรมการใหญ่ แล้วจะมีการดำเนินการต่อไปเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณและนโยบายต่างๆ