มันยุติธรรมแล้วหรือ ?

มันยุติธรรมแล้วหรือ ? ประท้วงนอนกลางถนน โดนทำร้ายกลับกลายเป็นผู้ต้องหา 

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561 กลางสีแยกไฟแดง บริเวณตลาดภิบาลพัฒนา มีชายรายหนึ่งออกมานอนประท้วงกลางถนน ชูป้ายขอความเป็นธรรม ภายหลังทราบชื่อคือนายสนิท พ่อค้าขายไก่สดตลาดในพื้นที่ หลังเข้าแจ้งความที่ สภ.แกลง เพื่อเอาผิดเจ้าของโรงเชือดไก่และพวก ในข้อหาทำร้ายร่างกายลูกสาวตนเอง แต่ น.ส.เสาวณี ลูกสาวเเละแฟนหนุ่มกลับโดนแจ้งข้อหาซะเอง

   เรื่องราวเกิดขึ้นตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 9 ส.ค 60 น.ส.เสาวณี สั่งไก่สดที่โรงเชือดไก่ของ นายพิเชษฐ์ ซึ่งเป็นผู้ค้าขายร่วมกันมานานหลายปีแล้ว และเป็นวันกำหนดเคลียร์บิลที่ค้างชำระอยู่ แต่เมื่อถึงกำหนดส่งไก่สด นายพิเชษฐ์ กลับไม่นำไก่มาส่งให้ตามที่ตกลง ทำให้ น.ส.เสาวณี ต้องไปตระเวนหาซื้อไก่ตามตลาด ซึ่งมีราคาที่ค่อนข้างสูงทำให้ขาดทุนกว่า 6 พันบาท ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ น.ส.เสาวณี บอกปฏิเสธรับไก่จากโรงเชือดไก่ของ นายพิเชษฐ์ อย่างฐาวร

แต่เรื่องไม่จบ เพราะ น.ส.เสาวณี ยังมีบิลการซื้อไก่สดที่ค้างอยู่ 33,511 บาท คืน ทำให้นายพิเชษฐ์ ขอทวงคืน โดย น.ส.เสาวณี ขอต่อรองผ่อนคืนวันละ 2,000 บาท เพราะเงินที่เตรียมไว้เคลียร์บิลนั้นนำไปซื้อไก่ ในวันที่ นายพิเชษฐ์ ผิดนัดส่งไก่ไปหมดแล้ว แต่การต่อรองไม่สำเร็จ นายพิเชษฐ์ ต้องการเงิน 33,511 บาทคืนทั้งหมด

การต่อรองทำให้เกิดปากเสียงกัน นายพิเชษฐ์ พร้อมพวก เดินทางมาที่บ้านของ น.ส.เสาวณี เพื่อทวงเงิน การโต้เถียงเกิดขึ้นอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดการทำร้ายร่างกาย น.ส.เสาวณี และครอบครัวเล่าว่า ในวันเกิดเหตุ นายพิเชษฐ์ โทรมาข่มขู่ทวงเงินจาก น.ส.เสาวณี โดยระบุว่าจะเดินทางไปที่บ้าน ซึ่งตอนนั้น น.ส.เสาวณี อยู่นอกบ้านจึงไปแจ้งความที่ สภ.แกลง และพา ตำรวจมาด้วย เมื่อเดินทางถึงบ้าน ก็พบกับ นายพิเชษฐ์ และพวก และเกิดการทำร้ายร่างกายขึ้น ซึ่งขณะนั้นตำรวจอยู่ในเหตุการณ์ แต่!!! ไม่ช่วยระงับเหตุ

หลังเกิดเหตุทันที น.ส.เสาวณี และครอบครัว เดินทางไปแจ้งความ นายพิเชษฐ์ และพวก ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ที่ สภ.แกลง ทันที ซึ่งตำรวจรับแจ้งความ และเพิ่มข้อหา ทวงหนี้รุนแรง ต่อนายพิเชษฐ์ ด้วย เเละในวันถัดมา นายพิเชษฐ์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา และแจ้งความกลับ น.ส.เสาวณี และนายจิระเดช (แฟน น.ส.เสาวณี) ในข้อหาทำร้ายร่างกายเช่นเดียวกัน

น.ส.เสาวณี เล่าต่อว่าหลังจากนั้นตนเอง พยายามต่อสู้มาโดยตลอด เพราะในวันเกิดเหตุตนเองและแฟนไม่ได้ทำร้ายคู่กรณีเลย พร้อมกันนี้ยังมีกล้องวงจรปิดที่เป็นหลักฐานสำคัญของเรื่องนี้ แต่อ้างว่าตำรวจไม่นำมาเป็นหลักฐาน จนในวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา ครอบครัวตนเองสุดจะทน คดีของตนเองจะถูกส่งอัยการ จึงต้องออกมาประท้วง เพื่อขอความยุติธรรม

อีจันได้ติดต่อไปยัง พ.ต.ท.มานพ ประสาท รอง ผกก.สส.สภ.แกลง หัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ ให้ข้อมูลว่าทั้ง 2 ฝ่ายได้นำคลิปภาพมาเป็นหลักฐาน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีซึ่งกันและกัน ซึ่งตำรวจต้องรับแจ้งความและตั้งข้อหาทั้ง 2 ฝ่าย โดยอิงจากหลักฐานที่ได้เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งนายพิเชษฐ์ ยอมรับข้อกล่าวหาทั้งหมด

แต่ น.ส.เสาวณี ไม่เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา เเละไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ เพิ่งจะเดินทางเข้ามาให้ปากคำ ในวันนี้ (28 มี.ค.61) ซึ่งล่วงเลยมานานหลายเดือนเเล้ว เเต่ตอนนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาส่งฟ้องแล้ว ขั้นตอนต่อไปศาลจะเป็นผู้พิจารณาคดี