วันนี้ (13 พ.ย. 65) ที่ จ.สงขลา ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้าของร้านขายข้าวหมูแดง ถึงกับน้ำตาซึม เมื่อมีลูกค้ามาหลอกสั่งข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ และข้าวหน้าเป็ด ถึง 300 กล่อง ด้วยเงินลงทุนกว่า 15,000 บาท โดยบอกว่าจะนำไปทำบุญถวายเพลพระ แต่กลับไม่มาเอาของไป และไม่ได้จ่ายเงินไว้ก่อนด้วย
โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ร้านอรข้าวหมูแดง ตั้งอยู่ย่านถนนนิพัทธิ์ภักดี เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นร้านของ นายอ้าย อายุ 53 ปี เปิดขายทั้งข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ และข้าวหน้าเป็ด และเป็นร้านซึ่งเป็นที่รู้จักของคนในย่านนี้
นายอ้าย เจ้าของร้านเล่าว่า เมื่อสองวันก่อนมีหญิงสาววัยกลางคน แต่งกายภูมิฐานน่าเชื่อถือ ขับรถเก๋งมาสั่งซื้อข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบและข้าวหน้าเป็ด จำนวน 300 กล่อง บอกว่าจะนำไปทำบุญถลายเพลพระ โดยนัดมาเอาของในช่วง 10 โมงวันนี้
เมื่อได้รับออร์เดอร์แล้ว ทางร้านก็ต้องสั่งของมาเพิ่มมากกว่าปกติ และช่วยกันทำตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อให้เสร็จทันก่อน 10 โมงเช้า แต่ปรากฏว่าเมื่อทำเสร็จและรอลูกค้ามารับตามที่นัดไว้ ลูกค้าก็ไม่มารับ รอจนถึงช่วงบ่ายก็ยังเงียบหาย จึงเชื่อว่าน่าจะถูกหลอก ประกอบกับตอนที่ลูกค้าคนนี้มาสั่ง ทางร้านก็ไม่ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ไว้ และไม่ได้วางมัดจำไว้ด้วย เพราะหน้าตาน่าเชื่อถือ แต่งตัวภูมิฐาน มีเพียงลูกค้าที่จดเบอร์โทรศัพท์ของทางร้านไป
นายอ้ายบอกว่า ตอนที่รู้ว่าถูกลูกค้าหลอก ก็ถึงกับน้ำตาซึมพูดไม่ออก เข่าอ่อน ทำอะไรไม่ถูก เพราะข้าวทั้ง 300 กล่องนั้น ไม่รู้จะเอาไปไหน และต้องลงทุนไปกว่า 15,000 บาท ถึงแม้จะวางขายหน้าร้านก็น่าจะขายไม่หมด ขาดทุนแน่นอน แต่ปรากฏว่าเมื่อเรื่องนี้ได้มีการโพสต์และแชร์ต่อกันในสื่อสังคมออนไลน์ ใน อ.หาดใหญ่ กลับมีคนที่สงสาร พากันมาช่วยซื้อข้าวอย่างต่อเนื่อง บางรายก็มาซื้อหน้าร้าน บางรายก็เหมาหลายสิบกล่อง บางรายก็จ่ายเงินซื้อไว้ และให้ทางร้านแจกต่อให้คนอื่น
จากการสอบถามลูกค้าที่มาช่วยกันซื้อบอกว่า สงสารเจ้าของร้านที่ต้องมาถูกหลอกแบบนี้ และคนที่ทำแบบนี้ใจร้ายมาก บางคนถึงกับต้องการให้เจ้าของร้านไปแจ้งความดำเนินคดี
ในที่สุด ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบและข้าวหน้าเป็ด ทั้ง 300 กล่อง ก็ขายหมดลงในเวลาประมาณบ่าย 3 โมงเท่านั้น ซึ่งเจ้าของร้านก็ฝากขอบคุณลูกค้าทุกคนที่มาช่วยอุดหนุนจนหมดเกลี้ยง ทำให้ตนเองไม่ต้องขาดทุนยับเยิน พร้อมฝากไปยังลูกค้าผู้หญิงคนที่มาสั่งแล้วไม่มารับของว่า อย่าทำแบบนี้กับใครอีก
คลิปอีจันแนะนำ
จากคนเบื้องหลัง สู่นักวิจารณ์ปากแซ่บ “ท็อป หนอนหนัง”