อดีตนักโทษร่ำให้ก้มลงกราบจ่าเอี้ยงที่ช่วยพากลับบ้านสัญญาจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดี !

กุ้ง ใต้ราว อดีตนักโทษคดียาเสพติด ถึงกับร่ำให้ก้มลงกราบจ่าเอี้ยงที่ช่วยพากลับบ้านและสัญญาพร้อมทั้งให้คำสาบานว่าจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดี จะเลิกยาเสพติดและไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกแล้ว

จ่าเอี้ยง ด.ต.สนธยา ขุนทองปาน ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด หรือชุดตะวัน สภ.หาดใหญ่ ผู้เปลี่ยนชีวิตชายหนุ่มที่คิดว่าตนเองโดดเดี่ยวตัวคนเดียวจากด้านมืด เข้าสู่แสงสว่างในวันใหม่ จากคำพูดที่เคยให้สัญญาไว้ ทำให้ “กุ้ง” อดีตนักโทษ ไม่มีวันลืม
จากในเหตุการณ์ที่เคยผ่านมา ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดสภ.หาดใหญ่ ได้เข้าจับกุม นายสมพร แซ่อุ่ย อายุ 49 ปี หรือฉายา “กุ้ง ใต้ราว” ในวันที่ 12 กุมพาพันธ์ 2568 ในคดีเหตุมั่วสุมเสพยาเสพติดกับกลุ่มเพื่อนภายในบ้านหลังหนึ่ง ย่านถนนสวัสดิรังสรรค์ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

แต่วันนี้นายสมพร หรือฉายาที่เรียกกันในคุกว่า “กุ้ง” อดีตนักโทษได้รับอิสระอีกครั้งหลังจากที่ถูกจับกุมคดียาเสพติด ก็ได้เดินทางมาหาตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดหรือชุดตะวัน ที่สภ.หาดใหญ่ เพราะว่าทางชุดตะวันเคยบอกไว้ว่าถ้าพ้นโทษออกมาก็ให้มาหาพี่ตำรวจชุดนี้เพื่อช่วยพากลับบ้าน

โดยมี ด.ต.สนธยา ขุนทองปาน หรือ จ่าเอี้ยง ช่วยติดต่อโทรไปหาพ่อให้ เมื่อ กุ้ง หรือนาย สมพรได้ยินเสียงพ่อของตัวเองครั้งแรกในรอบ 30 ปี ที่ตนเองอยู่กับความมืดมนของชีวิตภายในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ไม่เคยได้เห็นแม้แต่ตะวัน ถึงกับก้มหน้าร่ำให้โฮออกมาทันที กุ้ง ได้คุยกับพ่อเป็นครั้งแรกทั้งน้ำตาด้วยความดีใจและบอกว่า “ผมอยากกลับบ้าน”
พ่อของกุ้ง ตอบกลับมาด้วยความรักที่ยังมีต่อลูก พ่อก็ถามว่าอยู่ที่ไหนและดีใจคิดถึงยังเสมอและจะไปรอรับ
ต่อมาจ่าเอี้ยง ก็พาไปส่งที่คิวรถตู้ตลาดเกษตร หาดใหญ่ ซื้อตั๋วโดยสารให้และยังให้เงินสดติดกระเป๋าอีกติดตัวไปไว้ใช้ 500 บาท

กุ้ง ได้เล่าให้ฟังอีกว่า ผมแทบจะเติบโตมาในคุกจนจะครึ่งช่วงชีวิต ผมติดคุกตั้งแต่อายุ 19 ปี แต่ตอนนี้ผมได้รับโอกาสให้ตัวเองอีกครั้ง โชคดีที่ในวันนั้นถูกตำรวจชุดตะวันจับกุม ผมรู้สึกเหมือนผมได้เกิดใหม่อีกครั้งจากที่คิดว่าชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้กลับบ้านแล้ว เพราะผมก็ไม่รู้ว่าจะต้องกลับไปหาใคร แต่ทางจ่าเอี้ยงช่วยผมได้ติดต่อ ถึงจนรู้ว่าอย่างน้อยก็ยังมีน้องชายและพ่อที่รอผมอยู่เสมอ

โดย นายสมพร หรือฉายาที่เรียกกันในคุกว่า”กุ้ง ใต้ราว”ถึงกับร่ำให้ก้มลงกราบจ่าเอี้ยงที่ช่วยพากลับบ้านและสัญญาพร้อมสาบานว่าจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีจะไม่ยุ่งเลิกยาเสพติดและไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกแล้ว
“ขอบคุณที่ให้ชีวิตใหม่กับผม” และยกมือไหว้เดินขึ้นรถมินิบัสหาดใหญ่-สุราษฎร์ธานี โบกมือลาจ่าเอี้ยงเป็นครั้งสุดท้าย