บิ๊กโจ๊ก ลั่น! “ต้องสอนอีก ผมไม่หมู” จ่อยื่นศาลไต่สวนฉุกเฉิน ปมค้นบ้าน

บิ๊กโจ๊ก แจงยิบเส้นทางการเงิน ยืนยันไม่รู้จักมินนี่ เตรียมซักลูกน้องไปเอี่ยวบัญชีม้ายังไง ลั่น “ผมไม่หมูเรื่องเส้นทางการเงิน”

ยังคงเป็นประเด็นร้อนที่สังคมจับตามอง กับข่าวใหญ่ บุกค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก และมีการจับกุมลูกน้องบิ๊กโจ๊กหลายคน เอี่ยวเงินเว็บพนันของ มินนี่ เจ้าแม่เว็บพนัน

‘บิ๊กโจ๊ก’ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล งง! โดนค้นบ้านตอนตี 5

ล่าสุดวันนี้(26 ก.ค. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ ตอบทุกคำถาม อธิบายละเอียดทุกประเด็นที่หลายคนสงสัย โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเข้าใจว่า ทุกคนคงมองว่าตนให้เจ้าของเว็บพนันมาดูแลค่าใช้จ่ายในส่วนตัว เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวาน(25 ก.ย. 66) ตนก็ทราบแล้ว ซึ่งเขาใช้ตรงนี้มาเป็นประเด็น ก็ไม่เป็นไร ขอเรียนว่า เอาข้อแรกก่อน เงินที่เห็นมันไม่ได้เยอะแยะ ตนเรียนว่าเงินเว็บพนันมันต้องเป็นร้อยล้าน เงินอย่างนี้มันเป็นเงินส่วนตัว เป็นค่าใช้จ่ายของตน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  กล่าวต่อว่า ผมมีลูกน้องอยู่คนหนึ่ง ที่เป็นรองผู้กำกับ อยู่กับผมมานานแล้ว เวลาที่ผมจะใช้จ่ายอะไรก็ให้เขา เขาจะเป็นคนไปโอนจ่ายค่ารักษาพยาบาล จ่ายค่าโทรศัพท์อะไรต่างๆ แต่ประเด็นที่เกิดขึ้นคือ เดี๋ยวผมต้องไปถามเขาว่าเขาใช้บัญชีม้า บัญชีต่างๆ ของใคร ทำไมต้องไปใช้ตรงนี้ เพราะว่าในเมื่อเงินผมมันถูกกฎหมาย เพราะฉะนั้นรายละเอียกทั้งหมดต้องรอเขาประกันตัวออกมา เดี๋ยวผมต้องถามจากเจ้าตัว

ที่เห็นยิบย่อย เช่น ค่ารักษาพยาบาลแม่ มันไม่ได้จำนวนมาก ไม่มากเพราะอะไร เพราะผมไม่ได้จ่ายครั้งเดียว มันจ่าย 20,000 – 30,000 บาทต่อครั้ง บางครั้งคุณแม่ผมเขาก็จ่ายเอง ส่วนใหญ่เราก็จ่ายให้ เราไม่จ่ายให้แม่ เราจะไปจ่ายให้ใคร ผมก็ตอบที่ไปที่มาของเงินนั้นได้หมด

“คืออย่างนี้ เวลาผมให้เงิน ผมให้กับรองผู้กำกับคริต ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมรองคริตต้องไปเอาเงินจากรองภาคภูมิ เพราะเงินพวกนี้ผมต้องเรียนว่า เงินเว็บพนันเนี่ย ถ้าผมรับเงินจากเว็บพนันมันต้องไม่ใช่ยอดเท่านี้หรอกครับ มันต้องเป็นร้อย เป็น 50 แต่นี่มันเป็นบัญชีส่วนตัวผม เดี๋ยวเมื่อรองภาคภูมิลูกน้องผม รองคริตเขาออกมา ผมก็ต้องเอาเขามาซักถามว่าธุรกรรมระหว่างเขา 2 คน มันคืออะไร”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังบอกอีกว่า คือแบบนี้ ข้อแรก ทำไมต้องใช้บัญชีม้า เพราะว่าเงินของผมมันถูกต้อง ท่านต้องดูนะครับว่ามันไม่มีเส้นเงินตรงไหนที่มาเข้าบัญชีของผม ผมก็ไม่เคยให้ลูกน้องไปเอาเงินใครมาดูแลแม่ผม เพราะว่าค่าโทรศัพท์มันไม่ได้มากมาย ไม่กี่ตังค์ เพียงแต่ว่าผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไปใช้บัญชีม้า ผมก็ต้องไปดูว่าระหว่างรองคริตก็เหมือนเป็นเลขาผม เวลาผมเอาเงินไปจ่ายให้แม่ จ่ายค่าโทรศัพท์ เราเป็นรอง ผบ.ตร. เราไม่มีเวลาไปโอนเงินหรอก ผมก็ใช้ง่ายๆ อย่างนี้ตลอด เพราะฉะนั้นถ้าเขาได้ประกันออกมาเดี๋ยวก็ต้องถาม 2 คนนี้ ทำไมถึงไปใช้บัญชีม้า แล้วทำไมถึงมีบัญชีม้าของมินนี่ ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บพนัน เข้ามาเกี่ยวกับรองภาคภูมิ ซึ่งผมก็เห็นอยู่แล้วว่ารองภาคภูมิกับมินนี่มันมีรูปอยู่ แน่นอนถ้ามีรูปอย่างนี้ก็แสดงว่าเขาต้องมีความสัมพันกัน

ส่วนคลิปที่ยืนร้องเพลง ผมก็ต้องยืนยันว่า หลังจากเสร็จงานเผาศพคุณพ่อผม ผ่านไป 2 วัน ผมก็เลี้ยงขอบคุณลูกน้อง ผมก็เลยมาไล่ย้อนหลัง ก็เลยรู้แล้วว่าลูกน้องผมเป็นคนเอามินนี่มา ซึ่งผมก็เจอมินนี่วันนั้นแหละ แต่ผมก็ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ ไม่ได้ติดต่อ เพราะไม่รู้จัก แต่วันนั้นเราเป็นงานเปิด วันนั้นทนายตั้มเขาก็มา เพราะฉะนั้นอันนี้มันเป็นการจับที่มีความสัมพันไปเกี่ยวโยง เพื่อจะให้มาถึงผม

ส่วนการค้นบ้าน ผมเรียนว่า เหมือนที่หัวหน้าชุดค้นเขาบอกว่า เขาค้นเพื่อจับกุมตัวบุคคลตามหมายจับ ผมก็ต้องดูว่าบุคลลตามหมายจับคือตำรวจคนติดตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะฉะนั้นเขาจะบอกว่าเขาไม่รู้ว่าบ้านหลังนี้ใครอยู่ มันเป็นไปไม่ได้ เดี๋ยววันนี้ผมจะไปยื่นศาล เรื่องละเมิดอำนาจศาล ให้ศาลสั่งไต่สวน เพราะฉะนั้นในส่วนการกระทำดังกล่าว มันเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงศาลทั้งหมด พูดง่ายๆ ว่าคือการหลอกศาล ไม่ได้บอกว่าบ้านหลังนี้ผมอยู่ เพราะว่าการที่เขาออกหมายจับเพื่อมาจับกุมตัวชานนท์หรือรองคริต ซึ่งเป็นลูกน้องที่ติดตามผม ใครจะไม่รู้บ้างว่ารองคริตอยู่บ้านหลังนี้ แล้วใครอยู่บ้านหลังนี้ อาจจะบอกว่าจะไปรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่บ้านหลังนี้ ก็ไม่เป็นไร แต่ว่านี่เป็นตำรวจติดตามผม

“มันเป็นไปใม่ได้ ที่จะไม่รู้ว่านี่บ้านผม ไปหลอกศาล ผมรู้ว่าถ้าบอกศาลเป็นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ศาลก็ไม่ออกหมาย เพราะมันเป็นบ้านนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แล้วยกมาเป็นกองกำลัง เป็นคอมมานโด ผมบอกเลยว่า มันเป็นเรื่องการเมืองใน ตร.”

เมื่อวานผมรู้แล้ว ผมก็ไล่ถามลูกน้องผม การเงินมันเกี่ยวข้องกับผมยังไง เพราะว่าผมทำงาน ผมมีแต่ปราบเว็บพนัน ผมไม่มีไปรับเงิน ถ้าผมรับเงินเว็บพนัน ความจริงมันปกปิดกันไม่ได้หรอก วันนี้มีเรื่องมินนี่มาถาม มินนี่ยังไม่รู้จักผมเลย

สรยุทธ : เป็นการเตรียมการที่ท่านเห็นว่า ตั้งใจให้เกิดภาพอย่างนี้ออกมา เอาคอมมานโดมาอย่างนี้เหรอ?

บิ๊กโจ๊ก : ครับใช่ครับ เพราะว่ามันเป็นการดิสเครดิตผม แต่ไม่เป็นไร ผมก็ใช้สิทธิ์ไปตามกฎหมาย ใครทำแล้วไปปกปิดศาล มันก็ไปเข้าเรื่องปกปิดข้อเท็จจริง แจ้งความเท็จ

ส่วนเรื่องที่อ้างว่า ชื่อตามทะเบียนบ้านไม่ใช่ชื่อของรองโจ๊ก ตรงนี้เขาต้องบอกศาล เพราะมันอยู่ในรายงายนกระบวนการพิจารณาหมด ไม่อย่างนั้นเวลาไปขอหมายศาล ศาลก็จะถามว่าคดีนี้เคยออกหมายจับหรือยัง เหมือนกันที่ขอหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ หมายจับลูกน้องผม ก็ใช้นายหมด  เพื่อปกปิดไม่ให้ศาลรู้ว่าเป็น พ.ต.ต. เป็น พ.ต.อ. ไม่ใส่ยศตำรวจ เขาไม่ทำกันแบบนี้ เพราะว่าผมก็จับคนมาเยอะนะ เวลาผมไปขอหมายจับใครผมก็ใส่ยศ แล้วศาลก็ตีกลับมาคุณไปออกหมายเรียกก่อน เพราะเขาเป็น พ.ต.อ. เขามีแหล่งที่อยู่ที่แน่นอน ผมกำลังเรียนว่าอันนี้มันส่อพิรุธ ใช้เป็นนายหมด ขอหมายค้นบ้านผม ก็ไม่บอกว่าเป็นบ้านผม ซึ่งวันนี้ผมก็จะยื่นศาล เพื่อขอให้ศาลไต่สวน เรื่องการละเมิด ซึ่งผมมองว่าเป็นการตั้งใจปกปิดข้อเท็จจริงอันควรนำเรียนให้ศาลทราบ

“ผมเรียนเลยว่า ต่อไปถ้าทำอย่างนี้ ต่อไปศาลก็แขยงตำรวจหมด แล้วต่อไปตำรวจจะทำงานยากขึ้นนะครับ เวลาไปขอหมายศาลก็จะให้ยากขึ้น และผมก็ต้องสอนอีกว่า วิธีการที่จะมาค้นบ้าน วิธีการตำรวจก็จะต้องมาสังเกตการณ์บ้านก่อนแล้ว รู้อยู่แล้วว่าบ้านนี้ใครอยู่ ไม่อย่างนั้นจะเข้าถูกได้ยังไง”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกด้วยว่า เมื่อวาน(25 ก.ย. 66) ตนก็ได้โทรหา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ซึ่งสนิทกัน ทาง ผบ.ตร. ก็บอกว่าเดิมทีเรื่องนี้มารายงานให้ท่านทราบแล้ว แต่มาบอกพี่ว่าก่อนจะเข้าจะมาขออนุญาตก่อน ก่อนจะเข้าจะมารายงานให้ทราบก่อน แต่อันนี้เข้าไปเลยแล้วมารายงานทีหลัง

“ผมต้องเรียนว่า วันนี้ผมจะอยู่หรือไม่อยู่ ไม่สำคัญ ผมจะอยู่ตรงไหนไม่สำคัญ แต่ว่าผมต้องทำให้สังคมรู้ ผมต้องทำให้องค์กรรู้ว่าแบบนี้ มันเป็นการฉ้อฉล คุณจะมาทำอย่างนี้ไม่ได้ แบบนี้เขาเรียกวิชาโจร นี่ขนาดผมเป็นรอง ผบ.ตร. ผมยังโดนขนาดนี้ ถ้าชาวบ้านก็เลิกเลย แล้วเรื่องเงิน ไปดูสิครับ หมื่นกว่า สามหมื่นกว่า ใครเขารับเงินเว็บพนันกันแบบนี้ หาว่าเอาเงินเว็บพนันมาดูแลผม ผมเป็นรอง ผบ.ตร. ผมทำเรื่องเส้นเงินกันมาตลอด ผมไม่หมูขนาดนี้ ที่จะให้ใครโอนเงิน เส้นเงินกับตังค์ไม่เท่าไหร่มาแบบนี้ ผมเปรียบเทียบให้ดูเลย”

ส่วนเรื่องธุรกรรมระหว่าง 2 คน ของรองภาคภูมิ กับรองคริต ลูกน้องผม ผมกำลังตั้งข้อสังเกต ว่า รองคริตติดการพนันหรือเปล่า เพราะที่ไล่ข้อมูลกับลูกน้องมื่อวาน มีมูลมาว่ารองคริตยืมเงินจากหลายคน ติดพนันฟุตบอลหรือเปล่า ซึ่งถึงเวลาตนก็จ่ายเงินตรงเวลา แต่ยังไงลูกน้องเราต้องให้ความเป็นธรรม เราต้องช่วย ต้องดูแล เดี๋ยวถ้าได้ประกันออกมา ก็ต้องถามเลยว่า ทำไมผมให้เงินคุณทุกครั้งเป็นเงินสด รับจากเมียผมเองด้วยซ้ำ แล้วทำไมคุณต้องไปยืมไปยุ่งกับเงินเขา อันนี้คริตมันต้องตอบ คริตกับภาคภูมิมันต้องตอบ

ผมเป็นตำรวจที่เข้าถึงง่าย ชาวบ้านมาเข้าถึงผมได้หมด ทุกคนรู้ดี เวลาผมจัดงานผมก็เปิดหมด ผมถือว่าเราเป็นตำรวจผมก็ต้องเรียนว่าเรารู้จักได้หมดทุกคน แต่เราไม่ได้ไปร่วมทำผิดด้วย ไม่ใช่ว่าผมร้องเพลงกับเขาครั้งเดียวแล้วผมจะไปทำเว็บพนัน ไปรับเงินเว็บพนัน มันไม่ใช่ ป่านนี้ถ้าผมรับมันต้องมีข้อมูลอะไรมากกว่านี้ มันต้องไม่มีเงินแค่นี้ 3 ล้านกว่า ใครก็รู้ว่าเว็บพนันมันไม่ได้จ่ายกันแค่นี้ ไปถามเจ้าของเว็บพนันก็ได้ มันไม่ได้ดูแลกันแค่นี้ ก็เหมือนคดีที่ผมไปจับ มันเป็นร้อยล้านทั้งหมด

“วันนี้ก็ผิดหวังกับลูกน้อง เพราะมันทำให้เราเสียเกียรติไปด้วย แล้วทำให้ลูกน้องคนอื่นเขาเดือดร้อนไปด้วย ก็เซ็งตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
คลิปอีจันแนะนำ
สรุปการ ค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก ปมลูกน้องเอี่ยวเว็บพนัน!