อุทาหรณ์! ที่พ่อแม่ไม่มีวันลืม

อุทาหรณ์! ที่พ่อแม่ไม่มีวันลืม

อ่านแล้วเศร้าจัง

เฟซบุ๊ก Kit Chinsuwannakit ได้โพสต์ เรื่องราว ของพี่สาวและลูกน้อยของเธอ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ สำหรับครอบครัวอื่นๆ ที่มีลูกเล็ก

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับครอบครัวดิฉัน ที่เกิดจากการวินิจฉัยผิดและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีของหมอในโรงพยาบาลประจำอำเภอ

น้องจั่นเจา อายุ 2 เดือน มีอาการ ไอ อยู่ประมาณ 2-3 วัน ไม่ยอมหายแม่สังเกตอาการ และตัดสินใจพาน้องไปหาหมอที่คลินิกเด็กแห่งหนึ่ง ที่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 13 มีนาคม 2561 แล้วหมอบอกว่าเด็กเป็นหวัด หมอจ่ายยามา 2 ชนิด เป็นยาแก้อักเสบ กับยาแก้ไอ แม่ให้น้องกินยาอยู่ 1 วัน น้องจั่นเจา ก็ไม่มีอาการดีขึ้น เลยปรึกษากับพ่อว่าพาน้องไปโรงพยาบาล

ภาพจากอีจัน


ช่วงเย็นของ วันที่ 14 มีนาคม 2561 แม่ตัดสินใจพาน้องไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช เพื่อรักษา เจอคุณหมอเป็นผู้หญิงทำการตรวจ แจ้งว่าน้องไอธรรมดา ไม่มีไข้ ปอด และการหายใจเด็กปกติ ให้ยาแก้ไอมากิน 1 ขวด พ่อกับแม่ก็พาน้องกลับบ้านให้กินยาอยู่ 1 วัน แต่น้องยังไอไม่หาย กลับไอมากขึ้น ไอจนตัวงอ หน้าแดง ปากเขียว

พ่อกับแม่ ของน้องจั่นเจา เลยพาน้องกลับไปหาหมอที่โรงพยาบาลเดิม ที่ จ.นครศรีธรรมราช อีกครั้งในเช้าในวันที่ 16 มีนาคม 2561 เจอหมอผู้ชาย หมอทำการตรวจ หมอสอบถามอาการ แม่ก็บอกอาการว่าน้องไอหนัก ไอจนตัวงอ หน้าแดง ปากเขียว หมอก็ทำการตรวจหัวใจ บอกว่าน้องหายใจปกติ ปอดก็ปกติ แล้วบอกว่าโดยปกติเด็กเล็กไม่สามารถจ่ายยาให้ได้ แต่จะสอนเคาะปอดเวลาลูกไอ และสั่งจ่ายลูกสูบยางแดง สำหรับดูดเสมหะ และน้ำเกลือไว้ล้างจมูกให้ลูกถ้าลูกมีน้ำมูก

ภาพจากอีจัน


จากนั้นมาอยู่ที่บ้านน้องยังไอไม่หาย ยังไอเหมือนเดิม แต่ด้วยความที่เราได้คุยกับหมอที่โรงพยาบาลถึง 2 ครั้ง เราก็เชื่อการรักษาของหมอว่า เดี๋ยวเด็กคงหาย เพราะมีอาการไอแค่อย่างเดียว โดยที่เด็กไม่เป็นไข้เลย
มาถึงคืนวันที่ 28 มีนาคม 2561 น้องตัวร้อน แม่วัดไข้ได้ 38.3 องศา แม่ทำการรักษาเบื้องต้น โดยการเช็ดตัวให้น้องแล้ววัดไข้อีกรอบ ลดลงเหลือ 36.8 องศา จนถึงเช้าวันที่ 29 มีนาคม 2561 แม่กับพ่อ พาน้องไปที่คลินิคเดิมที่เคยพาน้องไป ใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพราะน้องมีไข้ น้องเริ่มอ่อนแรง หมอทำการตรวจแล้วบอกว่า ลงปอดแล้วให้รีบไปโรงพยาบาลด่วน

พ่อกับแม่เลยพาน้องกลับมาที่โรงพยาบาลเดิม ที่ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช อีกรอบเพื่อทำการรักษาและส่งตัวไปโรงพยาบาลที่ใหญ่กว่า มาครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรงจุดคัดกรองเห็นน้องแล้วตกใจ เพราะน้องอาการไม่ค่อยดี เลยให้พาน้องเข้าห้องฉุกเฉิน เข้าไปเจอหมอผู้ชายคนเดิมที่เคยรักษาครั้งที่ 2 ทำการตรวจ และบอกว่าน้องปอดบวม หายใจแรงและหอบมาก เลยให้ออกซิเจนน้อง และบอกพ่อกับแม่ว่า ถ้าอาการดีขึ้นก็จะให้รักษาตัวที่โรงพยาบาลนี้ แต่ด้วยความที่ไม่มั่นใจในการรักษาและด้วยอาการที่น้องเป็นหนัก แม่จึงขอทำเรื่องส่งตัวไปโรงพยาบาลประจำจังหวัด เมื่อไปถึงน้องต้องรักษาอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤต PICU

ภาพจากอีจัน


หมอที่โรงพยาบาลแห่งใหม่ เรียกพ่อกับแม่คุยเรื่องอาการของน้อง บอกว่าน้องปอดบวมทั้ง 2 ข้าง ติดเชื้อในปอดและลามไปติดเชื้อที่กระแสเลือดขั้นรุนแรง ทำให้น้องหายใจลำบาก ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ และให้ยารักษาปอดบวม ผลเลือดออกมา คือค่าเม็ดเลือดขาวน้องสูงมากถึง 92,000 หมอบอกว่าน้องอาการไม่ดีเลย พ่อแม่ต้องทำใจไว้บ้างเนื่องจากติดเชื้อที่กระแสเลือดอย่างรุนแรง ทำการรักษาอยู่ 6 วัน น้องอาการก็ไม่ดีขึ้นเลย มีอาการอย่างอื่นแทรกซ้อน เช่น น้องปัสสาวะเองไม่ได้เนื่องไตทำงานผิดปกติ ต้องให้ยาเพื่อขับปัสสาวะออก เกลือแร่ในร่างกายต่ำ ต้องให้เกลือแร่เข้าไป อุณหภูมิในร่างกายน้องไม่คงที่ ขึ้นๆลง แต่หมอก็ทำการรักษาอย่างเต็มที่ ด้วยอาการทรงๆ ทุกวัน

ภาพจากอีจัน


จนมาถึงวันที่ 4 เมษายน 2561 ช่วง 9 โมงกว่า หมอเรียกพ่อกับแม่ไปคุยเรื่องอาการน้อง หมอบอกว่าน้องอาการหนักเพราะน้องช๊อคเมื่อตอน 9 โมง ความดันน้องวัดไม่ได้เลย จากเดิมที่ความดันน้องปกติ หมอทำการให้ยากระตุ้นความดัน และให้ยาตัวอื่นๆเพื่อรักษาอาการน้อง ให้ส่วนประกอบของเลือดเนื่องจากเม็ดเลือดน้องมีปัญหาจากการติดเชื้อขั้นรุนแรง และต้องทำการผ่าตัดเส้นเลือดตรงขาเพื่อให้ยาทางเส้นเลือดทันที เเละย้ำคำบาดหัวใจว่า ให้พ่อกับแม่ทำใจเยอะๆเลยเพราะโอกาสที่น้องอยู่กับเรามีน้อยมาก 

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


จนมาถึงเวลาประมาณเที่ยงกว่าๆ หมอเรียกพบอีกรอบ แจ้งอาการว่าความดันน้องวัดค่าไม่ได้เลย แม่หันไปมองน้องสังเกตุเห็นปากน้องเริ่มเขียว แต่หมอจะทำการรักษาต่อ

จนกระทั่งถึงเวลาเยี่ยม 14.00-15.00 น้องอาการก็ไม่ดีขึ้นเลย หมอมาคุยอีกรอบ บอกว่าความดันน้องวัดค่าไม่ได้ หัวใจน้องเริ่มเต้นช้าลง เเม่ยินยอมให้หมอปั๊มหัวใจทันทีเมื่อน้องหยุดหายใจเพื่อยื้อชีวิตลูกน้อยไว้ต่อไป

เเต่เเล้วช่วงเวลาอันโหดร้าย ก็เกิดขึ้น 15:30 น้องหายใจช้าลงจนหมอต้องปั๊มหัวใจ แต่ก็ไม่สามารถเรียกลมหายใจน้องกลับคืนมา น้องหยุดหาย จากพ่อเเม่ไปอย่างไม่มีวันกลับ 

ภาพจากอีจัน

#อายุสั้นจังเลยลูกเอ๋ย #RIPน้องจั่นเจา #อุทาหรณ์ครั้งนี้พ่อเเม่จำจนวันตาย