จากกรณีที่ จ.มุกดาหาร ได้พิจารณาใช้อาคารรวมใจ ของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี บ้านด่านคำ ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร เป็นสถานที่ในการเฝ้าระวังและสังเกตการ ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จำนวน 4 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ อิหร่าน และอิตาลี หรือผีน้อย มากักตัวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ภาพจากอีจัน
วานนี้ (8 มี.ค. 63) ที่ศาลาประชาคม บ้านด่านคำ ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร นายวิเชียร เชื้อดี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลมุกดาหาร พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน ได้เดินทางมาประชุมรับฟังคำชี้แจงจากตัวแทนส่วนราชการ พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทบทวนและยกเลิก ที่จะใช้อาคารรวมใจ ของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นสถานที่ในการเฝ้าระวังและสังเกตการ เพราะชาวบ้านในพื้นที่ เกรงว่าจะได้รับผลกระทบหรือได้รับการแพร่เชื้อ ถึงแม้ว่าจะมีการยืนยันจากหลายหน่วยงานแล้วว่า เชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) จะไม่ลอยไปในอากาศ และไม่มีสัตว์เป็นพาหะนำโรค แต่ชาวบ้านก็ยังไม่มั่นใจว่าภาครัฐจะดูแลได้ถึงขั้นไหน ซึ่งชาวบ้านได้ให้เหตุผลว่า ถ้าภาครัฐมีมาตรการจริงจังก็คงไม่มีการระบาดหนักมาจนถึงวันนี้ ยืนยันว่าชาวบ้านด่านคำไม่ได้รังเกียจ หรือกีดกันบุคคลกลุ่มดังกล่าว พร้อมกับเสนอให้หน่วยงานรัฐ ใช้ตึกอาคารของโรงพยาบาลมุกดาหาร เนื่องจากอยู่ใกล้แพทย์ภาพจากอีจัน
ทั้งนี้ นายแพทย์สาธารณสุข อ.เมือง จ.มุกดาหาร กล่าวว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการเฝ้าระวังและสังเกตการ ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 จำนวน 4 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ อิหร่าน และอิตาลี กรณีที่มีคนไทยที่เป็นลูกหลานชาวจังหวัดมุกดาหารกลับมาจาก 4 ประเทศ จะต้องถูกดำเนินการควบคุมเฝ้าระวัง 14 วัน ซึ่งคนที่กลับเข้ามาต้องถือว่ายังไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อไวรัส แต่ในระยะความปลอดภัยเราต้องกักกันตัวเพื่อดูอาการ 14 วัน ถ้าไม่มีอาการใด ๆ ก็จะปลอดภัย และให้กลับบ้านได้ หากมีไข้ก็จะส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งอาคารดังกล่าวสามารถแบ่งแยกสัดส่วนชายหญิงได้ชัดเจน มีรั้วรอบขอบชิด อากาศถ่ายเทสะดวก สามารถรองรับประชาชนกลุ่มดังกล่าวได้มากกว่า 100 คนภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
หลังจากการชี้แจงชาวบ้านก็ยังคัดค้าน เนื่องจากยังไม่ได้คำยืนยันที่ชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่ยอมที่จะสลายตัวก่อนที่จะหารือ พร้อมกับจะล่ารายชื่อลายเซ็นชาวบ้านเป็นหนังสือ เพื่อจะได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เพื่อแสดงการคัดค้านกักตัวผีน้อยและผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงต่อไป ภาพจากอีจัน
- ธรรมนัสแจง กรณีเพจดังแฉคนใกล้ชิดกักตุนหน้ากากอนามัย เพื่อส่งออกต่างประเทศ
- ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่ง 109,045 ราย เสียชีวิตแล้ว 3,806 ราย
- ราชกิจจาฯ อนุญาตให้ส่งออกหน้ากากอนามัยได้
- สธ.เเถลง อย่ากลัวผีน้อย เพราะทุกคนผ่านการคัดกรองเเล้ว
- หญิงไทยกลับจากเกาหลี เดินทางท่องเที่ยวทั่วกระบี่พบมีไข้สูง หวั่นติดเชื้อโควิด-19