ไฟป่าดอยจระเข้ เชียงราย ยังคุกรุ่น

นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่(สบอ.) 15 พร้อมด้วย นายปรีชา ทองคำเอี่ยม ผอ.ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า/ สบอ.15 สนธิกำลังร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ สบอ.15 ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าลำน้ำกก เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าดอยแม่สลอง เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจดับไฟป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เจ้าหน้าที่ทหารพราน และราษฎรอาสาบ้านน้ำตกตาดทอง จำนวนประมาณ 100 คน เข้าดำเนินการเคลียร์พื้นที่ที่เกิดไฟป่า บริเวณป่าดอยจระเข้ ท้องที่ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย

นายกมลไชย กล่าวว่า พื้นที่ดอยจระเข้ได้ถูกไฟป่าลุกลามเป็นบริเวณกว้างกว่า 200 ไร่ ต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเข้าทำการดับไฟ ทำการจัดทำแนวกันไฟเพื่อให้ไฟอยู่ในวงจำกัด ไม่ขยายวงกว้างไปยังพื้นที่ป่าอื่นๆ และย่านชุมชน โดยได้รับการสนับสนุนการทิ้งน้ำดับไฟป่าจากเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ 3 -7 เม.ย. 63 จำนวน 163 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 88,020 ลิตร

เนื่องจากสภาพป่าเป็นป่าไผ่ตายแห้งเป็นบริเวณกว้าง และสภาพภูเขาสูงชัน มีปริมาณเชื้อเพลิงสะสมหนาแน่น ทำให้เชื้อเพลิงบางส่วนในพื้นที่แนวดำ (พื้นที่ป่าที่ถูกไฟไหม้และควบคุมไฟได้แล้ว) ยังคงคุกรุ่น จึงได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่ดังกล่าวให้ไฟดับสนิท โดยเฉพาะกอไผ่และขอนไม้ที่ยังมีไฟคุอยู่ ซึ่งอาจจะกลิ้งลงมาด้านล่างจนทำให้เกิดไฟขึ้นมาอีกได้ รวมทั้งเป็นการไม่ให้เกิดหมอกควันไฟไปสะสมในอากาศ และหลังจากเจ้าหน้าที่เคลียร์ไฟจนมอดสนิทแล้วจะได้จัดทำแนวกันไฟเพิ่ม และจัดเวรยามเฝ้าระวังไม่ให้เกิดไฟขึ้นมาอีก

จากสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นรวมทั้งในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในประเทศเมียนมา ยังพบมีไฟป่าเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเป็นช่วงที่มีความกดอากาศสูง ทำให้ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานมานานกว่าสัปดาห์ โดยกรมควบคุมมลพิษตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศไม่เกิน 2.5 ไมคอน (pm 2.5) พื้นที่ อ.เมืองเชียงราย วัดได้ 103 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่ชายแดนอำเภอแม่สายวัดได้ 162 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน