สธ. แจงผลแล็บยะลาผิดพลาด 40 ราย เกิดจากตัวควบคุมผลลบได้ผลบวก

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยเหตุผลตรวจเชื้อโควิด-19 ที่ยะลาผิดพลาด 40 ราย เพราะ Negative Control ที่ต้องได้ผลลบเสมอกลับได้ผลบวก

5 พฤษภาคม 2563 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการตรวจเชื้อโควิด-19 ประชาชนในพื้นที่จังหวัดยะลา 40 ราย ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งคณะผู้เชี่ยวชาญจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ลงไปสนับสนุนสอบทานหาสาเหตุความผิดปกติของผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ที่โรงพยาบาลยะลา ซึ่งต้องขอชื่นชมทีมเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาล ที่สามารถตรวจจับความผิดปกติได้รวดเร็ว นำมาสู่การรายงานผล และจะมีการนำตัวอย่างมาทดสอบที่ห้องปฏิบัติการ ที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คาดว่าผลจะทราบไม่เกิน 1-2 วันนี้

ทั้งนี้ ห้องปฏิบัติการโรงพยาบาลยะลา ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของกรมวิทย์ฯ และเปิดให้บริการตรวจแล้ว มากกว่า 4,000 ตัวอย่าง ใน 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ได้หยุดให้บริการตรวจชั่วคราวจนกว่าจะสอบทานเรียบร้อย

นายแพทย์โอภาส กล่าวต่อว่า เชื้อโควิด-19 เป็นเชื้อโรคใหม่ ทั่วโลกเพิ่งรู้จักได้ 4-5 เดือน ในระยะแรกการตรวจหาเชื้อทำได้ 2 แห่งคือ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

ภาพจากอีจัน

ต่อมาได้เพิ่มศักยภาพการตรวจให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศไทย ปัจจุบันมีมากกว่า 150 แห่ง โดยวิธีการตรวจหาเชื้อใน คอ จมูก ปอด ในทางเดินหายใจ ด้วยวิธี RT-PCR ที่เป็นมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกแนะนำและใช้เป็นหลักการเดียวกันทั่วโลก

ข้อดี คือความแม่นยำสูง ตรวจได้ตั้งแต่ระยะแรกของโรค แต่ต้องอาศัยความชำนาญในการตรวจ เครื่องมือราคาแพง มีขั้นตอนละเอียดสูง

สำหรับห้องปฏิบัติการตามเกณฑ์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำหนด ประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญ ดังนี้

1.มีนักเทคนิคการแพทย์ที่มีความรู้ความเข้าใจการตรวจด้วยวิธี RT-PCR
2.มีเครื่อง PCR และระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Bio Safety)
3.คนตรวจต้องผ่านการทดสอบความชำนาญ
4.ต้องมีระบบควบคุมคุณภาพมาตรฐานและการรายงานข้อมูลตามกรมควบคุมโรคกำหนด

ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบันได้ตรวจหาเชื้อแล้วกว่า 227,860 ตัวอย่าง และแนวโน้มตรวจเพิ่มได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตรวจประมาณสัปดาห์ละ 6,000 ตัวอย่าง ซึ่งมากกว่าเมื่อต้นเดือนเมษายน ถึง 2 เท่า

ภาพจากอีจัน

สำหรับเทคนิคการตรวจวิธี RT-PCR ในห้องปฏิบัติการจะมีตัวควบคุมหรือตัวเปรียบเทียบเสมอ 2 แบบ คือ แบบ positive คอนโทรล และ negative คอนโทรล ซึ่งตัว positive คอนโทรล ทดสอบต้องได้ผลบวกเสมอ ส่วน negative คอนโทรล ซึ่งจะต้องตรวจควบคู่กันเสมอตามมาตรฐาน จะใช้น้ำเปล่าก็จะต้องได้ผลเป็นลบ ดังนั้น การตรวจ RT-PCR ต้องมี 2 แบบนี้คู่กันเสมอ

ส่วนกรณียะลา อธิบดีกรมวิทย์ เผยว่า เมื่อนำไปทดสอบเปรียบเทียบตัวคอนโทรลพบว่า negative ซึ่งโดยปกติต้องเป็นลบเสมอ แต่กลับได้ผลเป็นบวกเจอเชื้อ ก็แสดงว่าผิดปกติ เจ้าหน้าที่จึงต้องหยุดตรวจและรายงานทางจังหวัดเพื่อหาสาเหตุ โดยแล็บของ รพ.ยะลา เป็นแล็บที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด และที่ผ่านมาก็ตรวจใน จ.ยะลา ไปแล้วกว่า 4 พันตัวอย่างใน 1 เดือนที่ผ่านมา สิ่งที่ปฏิบัติถือว่ามีมาตรฐานในการดำเนินงาน

“สาเหตุที่ว่าเพราะอะไรตัวเปรียบเทียบเป็นลบ เกิดผลบวกขึ้นมา ในทางห้องปฏิบัติการเราพบว่าความคลาดเคลื่อน หรือความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ หลักๆ มี 3 อย่าง คือ ความผิดพลาดของมนุษย์ (Human Error) ความผิดพลาดของเครื่องมือ น้ำยา (Machine Error) และความผิดพลาดของระบบ (System Error) เมื่อเกิดความผิดพลาดต้องหาสาเหตุ ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น ซึ่งห้องแล็บยะลา ก็สามารถดำเนินการตรวจจับได้ว่าเกิดความผิดปกติเกิดขึ้น แล้วก็ดำเนินการตามมาตรฐาน การตรวจทุกแล็บไม่ได้แปลว่าต้องได้ผลเหมือนเดิมทุกครั้ง มันจะมีความผิดพลาดได้เสมอ” นายแพทย์โอภาส กล่าว

ภาพจากอีจัน

ดังนั้น ผู้ที่นำผลไปใช้ ต้องตระหนักถึงประเด็นดังกล่าวเสมอ ซึ่งการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เป็นเครื่องมือหนึ่งในการวินิจฉัย แพทย์ นักระบาดวิทยา จะใช้ผลต้องคำนึงถึงธรรมชาติการเกิดโรคและสถานการณ์ทางระบาดวิทยาควบคู่กันเสมอ เช่น ใช้ในการค้นหาเชิงรุก การสอบสวนโรค