คำที่ว่า “คนไทยไม่ทิ้งกัน” คำนี้จริงเสมอ

สาวไทยในอเมริกา โพสต์ชื่นชมเจ้าหน้าที่สถานทูต คอยรับโทรศัพท์ให้คำปรึกษา ขอกลับไทยช่วงวิกฤตโควิด-19 เชื่อ คนไทยไม่ทิ้งกัน คำนี้จริงเสมอ

อีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่สาวไทยในอเมริกาได้เขียนชื่นชมเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ในกุรงวอชิงตัน DC ที่คอยรับโทรศัพท์คนไทยในอเมริกาให้คำปรึกษาต่างๆ ในช่วงวิกฤตโควิด-19 กำลังระบาด สาวไทยท่านนี้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Por Suramanee เธอเขียนเล่าว่า ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่โทรไปเพื่อขอคำปรึกษาเรื่องเดินทางกลับไทยในช่วงปิดน่านฟ้า ตอนแรกเธอก็เข้าใจว่าคงจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่หลายคน แต่ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่คนนี้คนเดียว ที่เธอได้รับคำปรึกษาดีๆทุกครั้ง พูดจาด้วยความอ่อนน้อมเสมอ จนเธออดไม่ได้ที่จะขอออกมาชื่นชมให้ทุกคนได้รู้ว่า เจ้าหน้าที่ที่สถานทูตไทย ในกรุงวอชิงตัน DC ทำหน้าที่ในยามวิกฤตได้อย่างดีที่สุด

ภาพจากอีจัน

โดยข้อความของเธอระบุว่า

“ เรื่องเล่านี้ เพื่อชื่นชมสถานทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน DC,USA. ค่ะ

ปอเป็นหนึ่งในคนไทยหลายคนที่ต้องตกค้างอยู่ใน US จากนโยบายการปิดน่านฟ้าแบบไม่ทันตั้งตัวของประเทศไทย

ภาพจากอีจัน

ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันที่ 3 เม.ย.63 ขณะที่ปอกำลังรอเตรียมจะขึ้นเครื่องบินเที่ยวบิน วันที่ 4 เม.ย.63 มันเหลือเพียงอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง ทันทีที่มีข่าวการปิดน่านฟ้า ปอรู้สึก Shock มาก ภาวนาขอให้เป็น Fake news แต่เมื่อได้รับข่าวยืนยันจากทางสถานทูต ถึงกับเข่าอ่อน ใจสลาย น้ำตาตก โทรศัพท์ร้องไห้ดังมากๆกับคุณพ่อในประเทศไทยตอนเที่ยงคืนที่ก็ใจจดใจจ่อรอการกลับของลูกสาวคนนี้อยู่

ทางการไทยได้ให้เหตุผลความจำเป็นด้านสาธารณสุขของคนในประเทศ ในขณะที่การเตรียมความพร้อมของหน่วยงานต่างๆที่จะรองรับการหลั่งไหลกลับเข้าประเทศของคนไทยยังไม่สมบูรณ์แบบเพียงพอที่จะรองรับคนจำนวนมากในคราวเดียวกัน เพราะทุกคนต่างต้องหนีตายและหนีความยากลำบาก สู่ชีวิตที่ปลอดภัย สุขกาย สุขใจกว่าอยู่นอกประเทศไทยเป็นไหนๆ…ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องส่วนรวมของชาติบ้านเมือง และปอก็เข้าใจเป็นอย่างดีและอยากมีส่วนร่วมในการทำให้ประเทศไทยปลอดโรคปลอดภัยด้วยค่ะ

หลังจากความผิดหวังในการกลับบ้าน ปอเลยต้องเริ่มกลับเข้าสู่กระบวนขอเดินทางกลับเข้าประเทศไทยใหม่อีกครั้ง ทั้งในเรื่องต้องวิ่งหาหมอ (ขับรถเกือบ 200 ไมล์) เพื่อตรวจร่างกายและเอกสารรับรองสุขภาพ Fit to Fly รวมทั้งการประสานขอหนังสือรับรองจากสถานทูต เนื่องจากปอเป็นหนึ่งในบุคคลที่อยู่ในหลักเกณฑ์ครบถ้วนให้บินกลับได้ในช่วงกลางเดือน พ.ค.63 นี้

แต่ท่ามกลางความรู้สึกวิกฤติของชีวิต ก็ยังมี “สิ่งดีๆ” ให้เล่าขานกันค่ะ

ปออยากจะขอพูดถึงเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยใน DC ถึงความมีน้ำใจ ใส่ใจ เข้าใจ และอดทนฟังพวกเราที่อยากกลับบ้านค่ะ

ภาพจากอีจัน

ปอชื่นชมเจ้าหน้าที่ Hotline ของ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน DC ที่เป็นคนรับสาย Hotline เบอร์ (202) 465-0938 ต้องขอชื่นชมจากใจจริงค่ะเพราะ เขาไม่เคยปฏิเสธที่จะรับสายใดๆเลย ทุกครั้งที่ปอและผู้ร้องท่านอื่น (ผู้ที่อยู่ในความเดือดร้อนและอยากกลับไทย) โทรเข้าไป เขาคนนี้จะพร้อมที่จะให้คำปรึกษาและให้รายละเอียดอย่างครบถ้วน ด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นทำให้ผู้ร้อง อุ่นใจ

ปอสามารถรับรู้ได้ถึงความเต็มใจในการรับฟังและการให้คำตอบของเขา ที่ไม่ใช่ตอบแบบส่งเดช หรือ ห้วนๆ หรือขอไปที และนอกจากนั้นเขายังมีการพูดปลอบประโลมเพื่อบรรเทาความกังวลใจให้กับผู้ร้องที่โทรไปด้วยค่ะ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้รับสายท่านนี้ แม้จะดึกแค่ไหนโทรไปเขาก็จะรับสายค่ะ อีกทั้งเขาจะคอยโทรหาผู้ร้องเสมอเมื่อมีเรื่องด่วนที่ต้องแจ้งให้ผู้ร้องทราบ

ตอนแรกปอเข้าใจว่าคำว่า Hotline น่าจะเป็นคนหลายๆ คนมาช่วยกันรับสาย แต่โทรไปกี่ครั้งก็จะเป็นคนเดียวและเป็นคนเดิมที่รับเสมอ ปอพยายามถามชื่อเขาแล้ว แต่เขาไม่ยอมบอก นับเป็นความถ่อมตน และแสดงถึงจิตสำนึกในการทำหน้าที่ที่ไม่ต้องการชื่อเสียงหรือแสดงตัวตน หนุ่มคนนี้เขามืออาชีพจริงๆนะคะ ทำหน้าที่แบบ ”ปิดทองหลังพระ”

ปอเลยไม่รู้จะชื่นชมให้คนอื่นได้รับรู้ได้ยังไงว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน DC มีบุคคลากรที่ดียอดเยี่ยมแบบนี้ แม้ในยามวิกฤติของชีวิตเขาซึ่งก็ไม่ต่างไปจากคนไทยคนอื่นที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศในยามโรคระบาดร้ายแรงเช่นนี้

เขาเคยเปรยกับปอว่า “ผมเองก็อยากกลับบ้านครับ แต่ผู้เดือดร้อนต้องกลับไปได้ก่อน ส่วนผมรอทีหลังได้” ปลื้มใจมากค่ะ

ภาพจากอีจัน

เรามีตัวแทนของผู้ทำหน้าที่เพื่อคนไทยในต่างแดนที่น่าประทับใจมาก ขอชื่นชมจากใจจริง และขอบคุณที่เขาเป็น 1 ในคนที่มีส่วนให้คนไทยนับร้อยได้กลับบ้าน..ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ พร้อมทั้งขอส่งผ่านคำขอบคุณไปยังท่าน ทูตธานี ทองภักดี เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน DC และเจ้าหน้าที่สถานทูต เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศทุกคนทุกฝ่ายที่ยังคงจะต้องเหน็ดเหนื่อยต่อไปอีก ในขณะที่คนไทยหลายชีวิตได้อานิสงส์จากความเสียสละทุ่มเทของท่านทั้งหลาย สามารถกลับสู่มาตุภูมิ อย่างปลอดโรคปลอดภัยสู่อ้อมกอดของพ่อแม่ญาติมิตรอันเป็นที่รัก

ปอจะขอประทับความรู้สึกดีๆนี้ไว้ในความทรงจำเสมอว่า “คนไทยไม่ทิ้งกัน” เป็นความจริงแท้แน่นอนค่ะ

ujreoiktrtrtt

PORNPAVEE SURAMANEE (Por)
ผู้เดือดร้อน ณ เมือง Clayton, New Jersey, USA. “